KUBET – นายกรัฐมนตรี แนะอาเซียนต้องทำงานร่วมกันรับมือภัยคุกคาม
นายกรัฐมนตรี แนะอาเซียนต้องทำงานร่วมกันรับมือภัยคุกคาม
นายกฯ กล่าวถ้อยแถลง AFF แนะอาเซียนต้องทำงานร่วมกันรับมือภัยคุกคาม-ความท้าทายโลก สร้างอนาคตที่ดีให้ ปชช.อาเซียนได้
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงพิธีเปิดงาน ASEAN Future Forum (AFF) ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ผ่านรูปแบบวีดิทัศน์ โดยระบุว่า อาเซียนกำลังดำเนินอยู่ในโลกที่มีหลายขั้วและแตกแยกมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบันอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตั้งแต่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ อาชญากรรมข้ามชาติที่ซับซ้อน ไปจนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย การหยุดชะงักของเทคโนโลยี มลภาวะ และการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม การจัดการกับความท้าทายเหล่านี้สำคัญต่ออนาคตอาเซียน จึงชื่นชมเวียดนามที่จัดงาน ASEAN Future Forum ครั้งที่ 2 ในปีนี้ ภายใต้หัวข้อที่ทันต่อยุคสมัย และเป็นประโยชน์ต่อการพูดคุยหารือเกี่ยวกับอนาคตของอาเซียน
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า นับตั้งแต่ที่ได้ก่อตั้งเมื่อ 57 ปีที่แล้ว อาเซียนเติบโตจนกลายเป็นต้นแบบของภูมิภาคนิยม และพหุภาคีนิยม อาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคง และยุทธศาสตร์ระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงระดับโลก อาเซียนจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน เพื่อความเป็นหนึ่งเดียว ครอบคลุม และยืดหยุ่นมากกว่าที่เคย อาเซียนที่เป็นหนึ่งเดียว หรือ “A United ASEAN” จะทำให้อาเซียนเดินหน้าในภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสามารถรับมือกับภัยคุกคามและความท้าทายที่เกิดขึ้นใหม่ได้
นายกรัฐมนตรี ยังเห็นว่า อาเซียนต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อต่อต้านภัยคุกคามด้านความมั่นคงเพื่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน อาเซียนต้องร่วมกันแสดงจุดยืนในประเด็นระดับภูมิภาคและระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาค โดยยึดผลประโยชน์และหลักการร่วมกัน อาเซียนยังต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นแกนกลาง หรือ Centrality ด้วยการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์กับมหาอำนาจทั้งหมด และส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจเชิงยุทธศาสตร์ผ่านกลไกที่นำโดยอาเซียน อาเซียนที่ครอบคลุม หรือ An inclusive ASEAN จะทำให้อาเซียนกลายเป็นประชาคมที่แข็งแกร่ง และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อาเซียนจะต้องส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือระหว่างภาคส่วนที่ครอบคลุมระหว่างรัฐบาล ธุรกิจ และประชาชน ขณะเดียวกัน อาเซียนควรเสริมสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมกับพันธมิตรภายนอก เพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกคนในภูมิภาค
ส่วนอาเซียนที่ยืดหยุ่น หรือ A resilient ASEAN นั้น นายกรัฐมนตรี เห็นว่า มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตอบสนองกับความท้าทายที่เกิดขึ้น และบรรลุการเติบโตและการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน ในการบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ระยะยาว อาเซียนต้องพร้อมที่จะคว้าโอกาส โดยมุ่งหวังที่จะนำการเปลี่ยนแปลงที่เอื้อประโยชน์มาสู่ประชาชนและภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ อาเซียนยังดำเนินการที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปรับตัว เพื่อรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจและการหยุดชะงักทางสังคม
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างประชาคมอาเซียนที่เป็นหนึ่งเดียว ครอบคลุม และยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงระดับโลก ขณะที่ อาเซียนกำลังเริ่มต้นวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนฉบับใหม่ ค.ศ. 2045 หรือ ASEAN Community Vision 2045 ให้เรามาร่วมสานต่อความมุ่งมั่นของอาเซียนต่อประชาคมอาเซียนที่สำคัญอย่างแท้จริงร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่า หากอาเซียนร่วมมือกัน อาเซียนจะสามารถเอาชนะความท้าทาย และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประชาชนของอาเซียนได้ พร้อมอวยพรให้งาน AFF ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ งาน ASEAN Future Forum หรือ AFF ครั้งที่ 2 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Building a United, Inclusive and Resilient ASEAN amidst Global Transformations” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 เพื่อแสวงหาแนวทางการรับมือและแก้ปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต และกระชับความร่วมมือเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาและความท้าทายต่าง ๆ โดยมุ่งให้อาเซียนเป็นศูนย์กลาง