KUBET – “นฤมล” ย้ำชัด กธ.ไม่ใช่สาขาย่อยใคร หลัง “ธรรมนัส” พา “อนุดิษฐ์-การุณ” คุย “ทักษิณ”
“นฤมล” ย้ำชัด กธ.ไม่ใช่สาขาย่อยใคร หลัง “ธรรมนัส” พา “อนุดิษฐ์-การุณ” คุย “ทักษิณ”
“นฤมล” ย้ำชัด “กธ.” ไม่ใช่สาขาย่อยของใคร หลัง “ธรรมนัส” พา “อนุดิษฐ์-การุณ” คุย “ทักษิณ” แค่ไปลามาไหว้ ตอกกลับ “เท้ง” ไม่เล่นเกมการเมือง ปม ท้าเปิดชื่อ 35 สส.ย้ายพรรค
17 พฤษภาคม 2568 ที่โรงแรมมารวยการ์เด้น บางเขน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงภาพรวมการประชุมยุทธศาสตร์ของพรรคกล้าธรรมด้านการศึกษาวันนี้ว่า พรรคให้ความสำคัญไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเกษตรท่านั้น เรื่องการศึกษาก็ให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน ซึ่งขับเคลื่อนโดยคณะทำงานและผู้แทนครูทั้ง 4 ภูมิภาคมาร่วมสัมมนาระดมสมองเพื่อกำหนดนโยบายให้ตรงใจกับประชาชน
ขณะที่ การเตรียมความพร้อมของพรรคกล้าธรรมเพื่อการเลือกตั้งใหญ่ในครั้งต่อไปนั้น มองว่าพรรคต้องเตรียมความพร้อมเสมอ ต้องรับทราบความต้องการของแต่ละพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายในทุกด้าน และจะมีการประชุมในทุกสัปดาห์
เมื่อถามว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เรียกร้องให้เปิดรายชื่ออีก 35 คน ที่จะร่วมกับพรรคกล้าธรรมนั้น นางนฤมล กล่าวว่า นี่ก็เป็นความเห็นของผู้นำฝ่ายค้าน ส่วนเราให้เกียรติทุกคนที่จะมาร่วมงานที่ได้พิจารณาและตัดสินใจ ย้ำว่าตนเองไม่ได้มาเล่นเกมการเมือง แค่พร้อมเปิดกว้าง และอุดมการณ์ของพรรคคือ ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีพวก และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากมีข้อเรียกร้องทั้งจาก สส. ไม่ว่าจะฝั่งไหน ก็จะช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ดำเนินการมาต่อเนื่องตั้งแต่สมัย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ดังนั้นจึงเชื่อว่าประชาชนจะได้ประโยชน์จากการดำเนินตามแนวทางดังกล่าว
และการที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายการุณ โหสกุล ได้มาร่วมกับพรรคกล้าธรรม ก็เนื่องจากอุดมการณ์พรรคตรงใจทั้งสองคน ที่ไม่จำเป็นต้องวิ่งหาฝ่ายเดียวกัน สิ่งสำคัญคือแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการเปิดตัวเรื่อย ๆ หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ต้องให้เกียรติคนที่จะมาหากพร้อมคงทยอยมาเรื่อย ๆ
ส่วนเมื่อวาน (16 พ.ค.2568) ที่ ร.อ.ธรรมนัส บอกว่ามีการพาทั้ง 2 คน ไปคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีจนายกรัฐมนตรีแล้ว ทำให้ถูกมองว่าเป็นพรรคสาขาย่อยหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า คงไม่ใช่สาขาย่อย แต่ทั้งสองคนเคยสังกัดพรรคเพื่อไทย และพรรคไทยสร้างไทย ดังนั้น การไปลามาไหว้ก็เป็นไปตามลำดับ จึงเป็นคนละเรื่องกัน ขอยืนยันอีกครั้งว่าพรรคกล้าธรรมไม่ใช่สาขาใคร และจะสร้างให้พรรคเป็นครอบครัวที่เข้มแข็งมากขึ้นต่อไป