25 พฤษภาคม โมฮาหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันนี้ ว่า ชาติอาเซียนเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้แบบแผนการผลิตและการทั่วโลกหยุดชะงักอย่างหนัก และอาจเกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก พร้อมกับย้ำให้อาเซียนฉวยโอกาสนี้เพื่อกระชับการบูรณาการทางเศรษฐกิจใจภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถปกป้องภูมิภาคจากแรงสั่นสะเทือนจากภายนอก

ชาติอาเซียนส่วนใหญ่พึ่งพาการส่งออกสู่ตลาดสหรัฐฯ และได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีเป็นอัตรา 10%-49% โดย 6 ชาติ จากทั้งหมด 10 ชาติ ติดกลุ่มที่เจออัตราภาษีสูงสุดระหว่าง 32%-49%

และหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วให้ระงับการเก็บภาษีอัตราใหม่ 90 วัน ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม เริ่มการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อต่อรองเรื่องภาษีอย่างรวดเร็ว แต่ความพยายามขอเจรจากับสหรัฐฯ ในฐานะอาเซียนยังไม่ได้รับการตอบรับจากสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามโมฮาหมัด กล่าวว่า มาเลเซีย ในฐานะประธานหมุนเวียนของอาเซียนในปีนี้ ได้ขอจัดการประชุมสุดยอดวาระพิเศษระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ เพื่อหารือเรื่องภาษี และหวังว่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้อาเซียนกำลังหาโอกาสให้ยูเครนเป็นชาติคู่เจรจา และกำลังเร่งรัดขั้นตอนรับติมอร์ตะวันออกเป็นสมาชิกลำดับที่ 11

นอกจากนี้โมฮาหมัด กล่าวถึงประเด็นสงครามกลางเมืองและภัยพิบัติแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยย้ำความมุ่งมั่นของอาเซียนในการสนับสนุนเมียนมาในช่วงเวลาทุกข์ยาก และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเมียนมายุติการสู้รบ และขยายเวลาหยุดยิงเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กระบวนการฟื้นฟูที่ยากลำบากและต้องใช้เวลายาวนาน และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

เขาบอกด้วยว่า จะต้องยุติความรุนแรงก่อนจัดการเลือกตั้ง และการเลือกตั้งจะไร้ประโยชน์หากมีเพียงบางส่วนได้เข้าร่วม และเป็นเพียงความพยายามล้างมลทินเท่านั้น   

ขณะนี้พรรคฝ่ายค้านถูกแบนหรือบอยคอตต์การเลือกตั้ง และยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศได้อย่างไร ในเมื่อกองทัพสูญเสียการควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ให้กับฝ่ายต่อต้านการรัฐประหารและกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์

โมฮาหมัด บอกด้วยว่า อาเซียนมีแผนตั้งทูตพิเศษถาวรประจำเมียนมาที่มีวาระ 3 ปี เพื่อส่งเสริมกระบวนการสันติภาพในเมียนมา และเขาจะเยือนเมียนมาในเดือนมิถุนายน ขณะที่ปัจจุบันทูตพิเศษประจำเมียนมาจะแต่งตั้งคนใหม่ในแต่ละปี จากประเทศที่เป็นประธานหมุนเวียน

นอกจากนี้การประชุมสุดยอดระดับผู้นำนาน 2 วัน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2568 ซึ่งจะมีการประกาศวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045 และประกาศแผนยุทธศาสตร์ใหม่ 4 ฉบับ ที่มุ่งเสริมการบูรณาการและความร่วมมือในภูมิภาค