KUBET – ติง “จิรายุ” มองรอบด้าน เรื่องปิด-ไม่ปิดด่าน เผยใครมีอำนาจสั่ง

ติง “จิรายุ” มองรอบด้าน เรื่องปิด-ไม่ปิดด่าน เผยใครมีอำนาจสั่ง

“พล.ท.ภราดร” ติง “จิรายุ” ขอให้มองรอบด้านเรื่อง ปิด-ไม่ปิดด่าน ทั้งค้าขาย-ความมั่นคง ชี้เป็นเกมจิตวิทยา พร้อมเผยใครเป็นผู้มีอำนาจสั่งปิดด่านตัวจริง

31 พฤษภาคม 2568 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ภายหลังไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ผู้มีอำนาจสั่งการปิดด่านเป็นอำนาจของหน่วยงานความมั่นคง โดยเฉพาะแม่ทัพภาค 2 เพราะพื้นที่ชายแดน อยู่ภายใต้กฎอัยการศึก มีอำนาจเต็มที่ โดยการเสนอแนะของ ผบ.กองกำลังในพื้นที่ หากเห็นว่า สถานการณ์จะเกิดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สามารถประกาศ ปิดด่านได้ทันที และแจ้งให้รัฐบาลทราบ ภายหลัง

 


พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร

 

“การประกาศปิดด่าน ต้องแจ้งรัฐบาลด้วย แต่จะปิดก่อนแล้วค่อยแจ้ง หรือแจ้งก่อนค่อยปิด สามารถทำได้หมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่หน้างาน และไม่จำเป็นต้องรอให้มีการสู้รบ หากประเมินแล้วว่าสถานการณ์ในพื้นที่ไม่สู้ดี สามารถปิดได้เลย”

พล.ท.ภราดร ยอมรับว่า การปิดด่านจะส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดน ซึ่งประชาชนชาวกัมพูชาก็เดือดร้อนเช่นกัน และจะได้เห็นปฏิกิริยาของฝ่ายรัฐบาลกัมพูชาแน่นอน เนื่องจากสินค้าอุปโภคบริโภค มาจากประเทศไทยทั้งหมด หากไม่สามารถซื้อสินค้าได้ ก็ต้องไปชั้นในของประเทศกัมพูชา ก็จะลำบากไปอีก

 

ส่วนกรณี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ้างนายกฯ ไม่ปิดด่านชายแดนกัมพูชานั้น พล.ท.ภราดร บอกว่า ควรพูดให้รัดกุมมากกว่านี้ ไม่ใช่มองในแง่เดียว ในเรื่องการท่องเที่ยวหรือการค้าตามแนวชายแดน จะต้องระบุด้วยว่า เว้นแต่จะมีความจำเป็น หรือเกิดสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนชายแดน ก็จะมีการปิดด่าน

 


จิรายุ ห่วงทรัพย์

“เป็นเกมจิตวิทยา การที่นายจิรายุ อ้างนายกฯ ไปพูดเช่นนั้น มีผลต่อสถานการณ์ในพื้นที่ ทำให้ฝ่ายกัมพูชาเกิดความมั่นใจ จะทำอะไรก็ได้ เพราะไทยจะไม่ปิดด่านแน่นอน ดังนั้นควรมองในมิติของความมั่นคงด้วย และที่สำคัญ อำนาจการปิดด่านเป็นของแม่ทัพภาค 2 ที่จะต้องพิจารณาสถานการณ์ในพื้นที่ หากเห็นว่าเสี่ยงจะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อประชาชน สามารถปิดได้ทันที แล้วค่อยแจ้งนายกฯทราบ” พล.ท.ภราดร กล่าว