ราชนาธ ซิงห์ รัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย เยี่ยมทหารที่ฐานทัพในเมืองศรีนาคาร์ รัฐจัมมูและแคชเมียร์ในวันพฤหัสบดี (15 พฤษภาคม) หลังจากอินเดียและปากีสถานเพิ่งยุติการโจมตีข้ามพรมแดนที่ยืดเยื้อนาน 4 วันเมื่อวันเสาร์ (10 พฤษภาคม)

การโจมตีด้วยขีปนาวุธ โดรน และปืนใหญ่ ทั้งในดินแดนแคชเมียร์ในฝั่งอินเดียและปากีสถาน และพื้นที่อื่น ๆ ของทั้งสองประเทศ สร้างความวิตกไปทั่วโลกว่าจะนำไปสู่สงครามระหว่างสองมหาอำนาจนิวเคลียร์

นายซิงห์ กล่าวในวันนี้โดยตั้งคำถามว่า อาวุธนิวเคลียร์ที่อยู่ในมือของประเทศอันธพาลที่ไร้ความรับผิดชอบจะปลอดภัยหรือไม่ และเชื่อว่าอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถานควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA

ถ้อยแถลงของนายซิงห์มีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากนายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถาน กล่าวขณะลงพื้นที่เยี่ยมทหารใกล้ชายแดนว่า หากอินเดียเลือกโจมตีอีกในอนาคต ปากีสถานก็พร้อมตอบโต้ที่สร้างความเสียหายย่อยยับ ทำให้อินเดียสูญเสียทุกอย่างที่มี 

ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีโมดี กล่าวเมื่อวันจันทร์โดยให้คำมั่นว่า จะเดินหน้าทำลายฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายในปากีสถานเหมือนการโจมตีที่เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม โดยบอกว่า ปฏิบัติการดังกล่าวจะเป็นวิถีปกติใหม่

อินเดียเริ่มยิงขีปนาวุธทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้าย 9 แห่งในปากีสถานเพื่อล้างแค้น หลังเกิดเหตุกราดยิงทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คนในแหล่งท่องเที่ยวในดินแดนแคชเมียร์ฝั่งอินเดียเมื่อเดือนเมษายน แต่ปากีสถานปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง  นอกจากนี้ปากีสถานปฏิบัติการตอบโต้กลับ และอ้างว่า ยิงเครื่องบินขับไล่ของอินเดียร่วง 5 ลำ แต่อินเดียยังไม่ยืนยันเรื่องนี้ และประกาศว่าปฏิบัติการทางทหารประสบความสำเร็จ