KUBET – โลกจับตาการต่อสู้คดี หลังทรัมป์เจอศาลเบรกขึ้นภาษี แต่ยื่นอุทธรณ์ทันที
โลกจับตาการต่อสู้คดี หลังทรัมป์เจอศาลเบรกขึ้นภาษี แต่ยื่นอุทธรณ์ทันที
รัฐบาลหลายประเทศกำลังศึกษาคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ที่สั่งระงับการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรัฐบาลทรัมป์ยื่นอุทธรณ์แล้ว
ดอน ฟาร์เรลล์ รัฐมนตรีการค้าออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี (29 พฤษภาคม)ว่า รัฐบาลกำลังศึกษาคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ที่สั่งยับยั้งมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ในวงกว้างเกือบทุกประเทศทั่วโลกที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายน และคาดว่ากระบวนการทางกฎหมายจะยืดเยื้อโดยมีการต่อสู้ในหลายศาลต่อไป พร้อมกับยืนยันจุดยืนของรัฐบาลออสเตรเลียที่เห็นว่า การขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากออสเตรเลียไม่สมเหตุผล และจะเดินหน้าผลักดันให้ยกเลิกภาษีดังกล่าว
นอกจากนี้กระทรวงกิจการต่างประเทศและการค้านิวซีแลนด์ บอกว่า ยังต้องศึกษารายละเอียดของคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ก่อนจะแสดงความเห็นใด ๆ และโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น บอกว่า รัฐบาลจะพิจารณารายละเอียดคำตัดสินอย่างระมัดระวัง และเตรียมการตอบสนองอย่างเหมาะสม
ส่วนกระทรวงต่างประเทศจีน ย้ำจุดยืนว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามภาษีหรือสงครามการค้า และการกีดกันการค้าทำลายผลประโยชน์ของทุกฝ่ายและสวนทางกับความต้องการของประชาชน
ขณะที่นักวิเคราะห์ มองว่า คำตัดสินของศาลอาจทำให้การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และชาติหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่จะชะลอออกไป และยังเร็วเกินไปที่จะคาดเดาว่า การขึ้นภาษีของทรัมป์จะถูกยกเลิก เพราะรัฐบาลยื่นอุทธรณ์แล้ว
คำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศมีขึ้นหลังจาก 12 รัฐในสหรัฐฯ รวมถึงนิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ยื่นฟ้องเพื่อให้ยับยั้งนโยบายภาษีของทรัมป์ โดยศาลระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขต เพราะเป็นอำนาจของรัฐสภา และการกำหนดนโยบายเป็นไปตามอารมณ์ชั่ววูบของทรัมป์ พร้อมกับสั่งให้ยับยั้งการบังคับใช้นโยบายภาษีของทรัมป์อย่างถาวรซึ่งมีผลโดยทันที และกำหนดให้รัฐบาลปฏิบัติตามภายใน 10 วัน
แต่รัฐบาลทรัมป์ยื่นอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตันทันทีเพื่อคัดค้านคำสั่งและโต้แย้งเรื่องอำนาจการพิจารณาคดีของศาลการค้าระหว่างประเทศด้วย ทำให้ถูกจับตาว่า สุดท้ายแล้วการต่อสู้ทางกฎหมายจะยืดเยื้อไปจนถึงศาลฎีกาสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันกำลังพิจารณาหลายคดีเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดี
ขณะที่นักลงทุนขานรับคำตัดสินของศาลด้วยความโล่งใจ โดยหุ้นในเอเชียและยุโรปปรับตัวสูงขึ้นถ้วนหน้า