KUBET – ปธน.เบลารุส ชนะเลือกตั้งท่ามกลางครหา หลังกุมอำนาจ 31 ปี
ปธน.เบลารุส ชนะเลือกตั้งท่ามกลางครหา หลังกุมอำนาจ 31 ปี
ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุส ที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ขยายเวลาอยู่ในอำนาจที่ยาวนาน 31 ปี ออกไปอีก 4 ปี หลังชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 7 ที่ถูกชาติตะวันตกวิจารณ์ว่าเป็นการเลือกตั้งที่น่าอัปยศ
คณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของเบลารุส ประกาศในวันจันทร์ (27 มกราคม) แสดงความยินดีกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ที่ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย และผลคะแนนที่ประกาศผ่านทางเทเลแกรมของคณะกรรมการ ระบุว่า ลูกาเชนโก วัย 70 ปีได้รับคะแนนเสียง 86.8% จากการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอาทิตย์
แต่ผู้นำและนักการเมืองของชาติยุโรป วิจารณ์ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ที่มีคู่แข่งเพียง 4 คน และล้วนสนับสนุนลูกาเชนโก ไม่มีความเสรีและความยุติธรรม เพราะสื่ออิสระถูกแบน และบรรดาแกนนำพรรคฝ่ายค้านถูกลงโทษจำคุกหรือบีบให้ลี้ภัยออกนอกประเทศ
คาจา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป และมาร์ทา คอส คณะกรรมาธิการขยายสมาชิก ระบุในแถลงการณ์ว่า อียูจะดำเนินมาตรการอย่างจำกัดและเจาะจงต่อรัฐบาลเบลารุส และให้การสนับสนุนภาคประชาสังคมและฝ่ายค้านที่ลี้ภัยในต่างประเทศ
ขณะที่สเวียตลานา ซิคานกูสกายา ผู้นำฝ่ายค้านที่ลี้ภัยในต่างประเทศ เรียกร้องให้ขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อบริษัทและบุคคลในเบลารุส ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกดขี่ข่มเหงฝ่ายต่อต้านลูกาเชนโก และจัดหาอาวุธสนับสนุนสงครามของรัสเซียในยูเครน และบอกด้วยว่า ตราบใดที่เบลารุสอยู่ภายใต้ลูกาเชนโก และอิทธิพลของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย จะยังมีภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของทั้งภูมิภาค
ด้านโฆษกทำเนียบเครมลินของรัสเซีย แถลงว่า ประธานาธิบดีปูตินแสดงความยินดีกับชัยชนะที่แข็งแกร่งและการจัดเลือกตั้งที่ประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งบอกด้วยว่า รัสเซียเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จัดขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และโปร่งใส ส่วนเสียงวิจารณ์จากชาติตะวันตกเป็นสิ่งที่คาดเดาได้อยู่แล้ว และไม่น่าใส่ใจ
ฝ่ายต่อต้านลูกาเชนโก ซึ่งส่วนใหญ่ถูกจำคุกหรือลี้ภัยในต่างประเทศเนื่องจากมาตรการกวาดล้างผู้เห็นต่างอย่างต่อเนื่อง ประณามการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า น่าอัปยศ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 ที่นำไปสู่การประท้วงใหญ่นานหลายเดือนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของประเทศ และตลอด 4 ปีนับจากการเลือกตั้งครั้งนั้น มีผู้ถูกจับกุมกว่า 65,000 คน ละอีกหลายพันคนถูกทุบตี ทำให้มีเสียงประณามและมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
ลูกาเชนโกเริ่มเข้าสู่อำนาจในปี 2537 และปกครองประเทศแบบเผด็จการ พึ่งพาการสนับสนุนทั้งทางการเงินและการเมืองจากรัสเซีย และยอมให้รัสเซียใช้ดินแดนของประเทศเป็นทางผ่านในการบุกยูเครนในปี 2565 และต่อมายังอนุญาตให้รัสเซียประจำการอาวุธนิวเคลียร์ได้