KUBET – “แก๊งเจ๊พรีม” ไม่แผ่ว จับอีก 2 รุมทำร้ายเหยื่อ ขณะที่เหยื่อก็เป็นผู้ต้องหา

“แก๊งเจ๊พรีม” ไม่แผ่ว จับอีก 2 รุมทำร้ายเหยื่อ ขณะที่เหยื่อก็เป็นผู้ต้องหา

“แก๊งเจ๊พรีม” อีนุงตุงนังไม่แผ่ว ตำรวจคลองหลวงจับเพิ่มอีก 2 “จัสมิน-ริน” รุมทำร้ายเหยื่อ ขณะเดียวกันเหยื่อที่เข้าแจ้งความ สุดท้ายกลายเป็นผู้ต้องหาไปด้วย ส่วนผู้ต้องหากลายเป็นแพะ

13 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้าคดี เจ๊พรีม กลุ่ม lgbtq+ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายรุ่นน้อง ด้วยการสาดน้ำซุปร้อนๆ ใส่ จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา รวมถึงยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ทั้ง ถูกข่มขู่ ถูกรุมกระทืบ ถูกข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ซึ่งต่อมาตำรวจขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ รวมทั้งหมด 8 ราย พร้อมส่งฝากขังใน 4 ข้อหาหนัก โดยศาลไม่อนุญาตให้ทั้งหมดประกันตัว

ขณะที่ช่วงค่ำวานนี้ (12 ก.พ.) มีรายงานว่า ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดฮฮดที่104/2567 ลงวันที่ 18 กรกฏาคม 2567 เพื่อจับกุมตัว นายจักรรินทร์ หรือ ตะวิน อายุ 20 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หลังจากที่ช่วงเย็นวานนี้ “กัน จอมพลัง” ได้พาผู้เสีย 3 ราย ที่ถูกกลุ่ม LGBTQ ทำร้ายร่างกาย โดยมี ตะวิน เป็น 1ในผู้เสียหายที่ร่วมเดินทางมาด้วย

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ย.67 ที่ ตะวิน ได้ยืมเข็มขัดหนังจาก พรีม จากนั้นวันที่ 19 ม.ค.68 ตะวิน ได้นำเข็มขัดเส้นดังกล่าวไปคืนให้ พรีม แต่กลับถูกปฏิเสธว่าไม่ใช่เข็มขัดดังกล่าว พร้อมขู่ทำร้ายและเรียกเงิน 11,892 บาท
“แก๊งเจ๊พรีม” ไม่แผ่ว จับอีก 2 รุมทำร้ายเหยื่อ ขณะที่เหยื่อก็เป็นผู้ต้องหา
 

“ตะวิน” จากเหยื่อสาวพรีม ตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง
 

นายตะวิน เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่ามีหมายจับ แต่ก่อนหน้านี้มีตำรวจเข้าไปหายายตนที่บ้าน แล้วยายโทรมาหา แต่ขณะนั้นตนเรียนอยู่ แล้วบอกว่าตนไปกระทำความผิด ตนจึงบอกยายไปว่าไม่ต้องสนใจ เพราะกลัวเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อีกทั้งมั่นใจว่าไม่เคยไปกระทำความผิดอะไร หลังแจ้งหมายเสร็จสิ้นตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางขั้นตอนต่อไป
 

คุมตัว “ตะวิน ” ส่งตำรวจเชียงใหม่ คดีฉ้อโกง
 

ขณะที่ช่วงสายวันนี้ (13 ก.พ.) ตำรวจจาก อ.เเม่เเจ่ม เชียงใหม่ พร้อมด้วยตำรวจ สภ.คลองหลวง ปทุมธานี ควบคุมตัว นายตะวิน  ไปดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดฮอด เจ้าตัวสีหน้าอิดโรย เพราะไม่ได้นอน เเละยืนยันกับนักข่าวว่า ไม่ได้เป็นผู้ฉ้อโกง เเต่ก็พอจะที่นึกได้เเล้วว่า บัตรประชาชน หลุดไปอยู่ในมือมิจฉาชีพ ได้อย่างไร

จากนั้นตำรวจพา “ตะวิน” ไปขึ้นรถ เเละได้เจอกับ คุณอา เข้ามากอด ปลอบ นายตะวิน  เจ้าตัวยืนยันกับอาว่า ไม่ได้เป็นคนฉ้อโกง พร้อมกับร่ำไห้ออกมา  ขณะที่อา บอกว่า ได้ติดต่อไปหาผู้เสียหายเเล้ว จะชดให้จ่ายเงินให้กับเขา ตะวิน ก็ยิ่งร้องไห้ ก่อนที่ตำรวจจะพาไปขึ้นรถ เพื่อเดินทางไปดำเนินคดีตามหมายจับ ที่จังหวัดเชียงใหม่
นายตะวิน เหยื่อแก๊งเจ๊พรีม ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง

“ตะวิน” ยอมใช้ค่าเสียหาย หวั่นหมดอนาคต
 

อาของนายตะวิน เปิดเผยว่า ยังทำอะไรไม่ถูก เเต่จะชดใช้ค่าเสียหาย ให้ผู้เสียหาย ทราบเเค่ว่า 7 หมื่นบาท เเม้หลานจะยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ฉ้อโกง เพราะเป็นห่วงอนาคตของตะวิน เพราะหลายยังเรียนหนังสืออยู่ โดยระหว่างที่กำลังเดินไปกับอา ปรากฎว่า อาถึงกับเป็นลม เกือบจะล้มจนนักข่าวต้องเอาไหล่รับไว้ เเละ ยืนยันว่า ไม่ได้ทำให้คุณ อาเสียใจ เเต่ต้องการจะช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงให้
 

ตร. เผย คดีฉ้อโกง ซื้อขายมือถือ หลอก 3 ชั้น
 

ขณะที่ พ.ต.อ. อมรพงษ์ พงษ์สุพรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ สภ.แม่แจ่ม เปิดเผยว่า กรณีของ ตะวิน เป็นเรื่องคดีของการฉ้อโกง เรื่องนี้ผู้เสียหาย คือ ร้านขายโทรศัพท์มือถือ มาเเจ้งความว่า ได้ติดต่อกับซื้อมือถือ กับเฟซบุ๊กหนึ่ง ที่เปิดขายมือถือ เเละ มาเสนอขายมือถือให้หลายเครื่อง รวมเป็นเงินกว่า 70,000 บาท ตกลงติดต่อกันซื้อขายกันเเล้วโอนเงินไป เเต่เฟซบุ๊กดังกล่าวไม่ส่งมือถือให้ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เเม่เเจ่ม จึงทำการสืบสวน พบว่า หมายเลขมือถือที่ใช้ในการติดต่อซื้อขาย เป็นชื่อของ “ตะวิน”  ส่วนชื่อบัญชีในการรับโอนเงิน เป็นชื่ออีกบุคคลหนึ่ง ที่รับโอนเงินจากเงินไทยเป็นเงินลาว ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานออกหมาย เเละเดินทางไปที่ภูมิลำเนาของ ตะวิน  ที่ จ.กาฬสินธ์ เเต่ก็ไม่พบตัว เนื่องจาก มาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย

ร.ต.อ.สำเริง มนฑนม รองสารวัตร (สอบสวน) เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่า “ตะวิน” ที่ตกเป็นผู้ต้องหา กระทำความผิดจริงหรือไม่ เเต่กรณีที่เกิดขึ้นมิจฉาชีพ ทำกันเป็นขบวนการที่มีความสลับซับซ้อน หลอก 3 ชั้น คือ ผู้ซื้อมือถือ เจ้าของเบอร์มือถือ เเละ เจ้าของบัญชีการโอนเงิน ซึ่งตำรวจประสานตรวจสอบตามไปถึงลาว เเต่ก็ได้รับคำตอบจากทางลาวว่า ไม่สามารถหาตัวคนที่เป็นเจ้าของบัญชีได้ นายตะวิน จึงถูกดำเนินคดีคนเดียว
นายตะวิน และ อา
 

“จัสมิน” กับ “ริน” แก๊ง LGBTQ เข้ารับทราบข้อกล่าวหากรณีทำร้ายนายเปา
 

ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ นายชนิกา หรือ จัสมิน อายุ 22ปี และนายกวินท์ธรรศ หรือ ริน อายุ 20 ปี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาหลังจากก่อนหน้านี้ นายอัยย์ญาดา หรือเปา ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความว่า ถูกจัสมินและริน ร่วมกันทำร้ายร่างกายโดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่คอนโด และทางเข้าห้องน้ำของสถานีน้ำมันแห่งหนึ่ง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จัสมิน เปิดเผยว่า ทุกอย่างก็ว่ากันไปตามกฎหมาย และตนไม่ใช่คนไปเตะผู้เสียหาย และขอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน

ทางด้าน พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รองผกก.สอบสวน สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า กรณี นายเปา ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่ม LGBTQ ที่ก่อเหตุร่วมกันทำร้ายมีอยู่ 2 เหตุ โดย 1.เป็นบริเวณบันไดหนีไฟชั้นแปดของคอนโด พื้นที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง โดยรับเป็น 1 คดี และอีกแห่งหนึ่งภายในสถานีบริการน้ำมันอีก 1 คดี วันนี้มีผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา 2 คน โดยทั้งสองคนมีการแจ้งข้อหาร่วมกันร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จากนั้นจะมีการนัดหมายเพื่อให้ผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อทำสำนวนการสอบสวนเพื่อส่งสำนวนต่ออัยการ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
“จัสมิน” กับ “ริน” แก๊ง LGBTQ เข้ารับทราบข้อกล่าว
 

“ไอซ์” ได้ประกัน ผู้เสียหายชี้ตัวผิด
 

ทั้งนี้มีรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาแก๊งเจ๊พรีม ชุดแรก 8 รายที่ถูกฝากขังในเรือนจำนั้น นายไอซ์  หนึ่งใน 8 ที่ถูกกล่าวหาว่า รวมกันทำร้าย น้องเตเต้ รวมกับพิมพ์เจล เเละ พรีม โดยใช้รองเท้าตบหน้า ล่าสุดศาลจังหวัดธัญบุรี ให้ประกันตัวนายไอซ์ เเล้ว หลังกลุ่มเพื่อน เเละพี่สาว นำหลักฐานมายืนยันว่า ไอซ์ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้เสียหายอ้างว่า ชี้ตัวผิด ทำให้นายไอซ์ ต้องอยู่ในคุก 2 คืน
นายไอซ์ ผู้เต้องหาชุดแรกที่ถูกฝากขังพร้อมเจ๊พรีม