ครอบครัวประกันชาวอิสราเอลเริ่มต้นเช้าวันจันทร์ (17 กุมภาพันธ์) ในวันครบรอบ 500 วันที่ตัวประกันถูกจับตัวไปฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ด้วยการรวมตัวที่ชายหาดในกรุงเทลอาวีฟ เพื่อลอยธงที่มีสีเดียวกับสีธงชาติ และมีรูปนาฬิกาทรายตรงกลาง เพื่อสะท้อนถึงเวลาที่ตัวประกันต้องถูกกักขังอยู่ในฉนวนกาซามานาน 500 วัน และเรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันที่เหลืออีก 73 คน ท่ามกลางความวิตกยิ่งขึ้นว่า ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวนาน 42 วัน แลกกับการปล่อยตัวประกันอิสราเอลและนักโทษปาเลสไตน์จะล่มก่อนกำหนด และตัวประกันที่เหลือจะไม่ได้กลับบ้าน

นอกจากนี้ครอบครัวตัวประกันเดินขบวนจากบริเวณใกล้บ้านพักนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ในกรุงเทลอาวีฟไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อกดดันให้รัฐบาลรักษาข้อตกลงหยุดยิงจนกว่าตัวประกันทุกคนจะได้กลับบ้าน  และมีผู้ประท้วงรวมตัวปิดกั้นถนนสายหนึ่งในเทลอาวีฟด้วย

ขณะที่ประชาชนร่วมชุมนุมประท้วงในหลายเมืองทั่วอิสราเอล และหลายคนยังร่วมอดอาหารนาน 500 นาที เพื่อร่วมเป็นกำลังใจให้กับตัวประกัน

ขณะเดียวกันชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเรียกร้องให้ประชาคมโลกยืนหยัดเคียงข้างฉนวนกาซา ชาวบ้านคนหนึ่งในเมืองราฟาห์ บอกว่า ต้องการให้โลกช่วยฟื้นฟูและชดเชยความเสียหายและความสูญเสียแก่ประชาชน และอีกคน บอกว่า สงครามยืดเยื้อมานาน 500 วันแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัว ยังคงไม่มีที่อยู่อาศัย หรือ เต็นท์ ขาดแคลนน้ำมาเกือบ 1 สัปดาห์ และไม่มีใครมาช่วยหรือถามไถ่อะไร 

อิสราเอลเริ่มเปิดฉากสงครามกับฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 หลังฮามาสโจมตีภาคใต้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,200 คน และจับตัวประกัน 251 คน ไปฉนวนกาซา ขณะที่สงครามคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์กว่า 48,200 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 111,600 คน และประชาชนเกือบ 90% ต้องพลัดถิ่นฐาน ที่พักอาศัยพังย่อยยับหรือได้รับความเสียหายกว่า 245,000 ยูนิต