KUBET – “นายกฯ” มอบอำนาจ “ผบ.ทหารสูงสุด” ปราบภัยคุกคามข้ามชาติ

“นายกฯ” มอบอำนาจ “ผบ.ทหารสูงสุด” ปราบภัยคุกคามข้ามชาติ

นายกฯ ลงนาม ตั้ง “คกก.ปชด.” มอบอำนาจ “ผบ.ทหารสูงสุด” บูรณาการ ขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติด -อาชญากรรมข้ามชาติ-คอลเซนเตอร์  

3 มีนาคม 2568 “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 83/2568 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 เรื่อง การจัดตั้งกลไกอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะแก้ไขปัญหายาเสพติอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้น
ควบคุมการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด และเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติของประชาชน

โดยจะเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งภัยคุกคามข้ามชาติรูปแบบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนและการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน นั้นเพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาพเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) และ (9)แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้มีคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับระเทศเพื่อนบ้าน เรียกโดยย่อว่า “คณะกรรมการ ปชด.” ประกอบด้วย

(1) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 
ประธานกรรมการ
(2) ปลัดกระทรวงมหาดไทย
รองประธานกรรมการ (1)
(3) ผู้บัญชาการทหารบก
รองประธานกรรมการ (2)
(4) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
รองประธานกรรมการ (3)
(5) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด
รองประธานกรรมการ (4)
ที่ได้รับมอบหมาย
(6) ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย
(7) ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
(8) ผู้แทนกระทรวงกลาโหม
(9) ผู้แทนกระทรวงการคลัง
(10) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ
(11) ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์
(12) ผู้แทนกระทรวงดิจิทัล
เพื่อเศรษฐกิจและสังคม
(13) ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม
(14) ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข
(15) ผู้แทนกองทัพเรือ
(16) ผู้แทนกองทัพอากาศ
(17) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(18) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ 
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
(19) ผู้แทนสำนักงานป้องกันและ
ปราบปรามการฟอกเงิน
(20) ผู้แทนกองทัพภาคที่เกี่ยวข้องกับ
เรื่องที่พิจารณาตามที่ประธานเห็นสมควร
(21) ผู้แทนจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับ
เรื่องที่พิจารณาตามที่ประธานเห็นสมควร
(22) ผู้แทนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณาตามที่ประธานเห็นสมควร

(23) เสนาธิการทหาร
กรรมการและเลขานุการ
(24) รองเสนาธิการทหารที่ได้รับมอบหมาย  เป็น ผู้ช่วยเลขานุการ (1)
(25) เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็น
ผู้ช่วยเลขานุการ (2)
(26) ผู้อำนวยการกองความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็น ผู้ช่วยเลขานุการ (3)

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ปชด. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

(1) ติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน

(2) นำนโยบายของรัฐบาล นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2570) หรือยุทธศาสตร์เฉพาะเรื่องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ไปสู่การปฏิบัติ

(3) เร่งรัด กำกับดูแล ตรวจสอบ ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการและองค์การต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่
ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ตามโยบายของรัฐบาล นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ
(พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) และยุทธศาสตร์เฉพาะเรื่อง

(4) ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชน หน่วยงาน
ภาควิชาการ และองค์กรภาคประชาชน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาม

(5) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือคณะที่ปรึกษา เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

(6) รายงานผลการปฏิบัติงานหรือสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือ คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ

(7) ดำเนินการอื่นใดตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

นอกจากนี้ ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เรียกโดยย่อว่า “ศอ.ปชด.” โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ เรียกโดยย่อว่า “ผอ.ศอ.ปชด.” มีหน้าที่และอำนาจดังต่อไปนี้

(1) อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง
เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ.ศ.2566-2570) นำนโยบายของคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านไปสู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม
(2) ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชน หน่วยงาน
ภาควิชาการ และองค์กรภาคประชาชน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาม
(3) รายงานผลการปฏิบัติงาน หรือสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ต่อ คณะกรรมการ ปชด.
(4) ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมอบหมาย

ขณะเดียวกัน ผอ.ศอ.ปชด. มีอำนาจในการจัดตั้งกองอำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการ หรือศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ เพื่อสนับสนุนการการดำเนินงานของ ศอ.ปชด. ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจัดโครงสร้างการติดต่อสื่อสาร การรายงาน และการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการและให้ความร่วมมือแก่คณะกรรมการ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อน ตลอดจนการปฏิบัติการตามที่ได้รับการร้องขอ

ส่วนคำสั่งอื่นใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน

สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ให้เป็นไป
ตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ.2547 หรือตามระเบียบของทางราชการ แล้วแต่กรณีโดยเบิกจ่ายจากงบประมาณของกรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


\"นายกฯ\" มอบอำนาจ \"ผบ.ทหารสูงสุด\" ปราบภัยคุกคามข้ามชาติ


\"นายกฯ\" มอบอำนาจ \"ผบ.ทหารสูงสุด\" ปราบภัยคุกคามข้ามชาติ


\"นายกฯ\" มอบอำนาจ \"ผบ.ทหารสูงสุด\" ปราบภัยคุกคามข้ามชาติ


\"นายกฯ\" มอบอำนาจ \"ผบ.ทหารสูงสุด\" ปราบภัยคุกคามข้ามชาติ