7 มีนาคม 2568 ความคืบหน้า กรณีดราม่า “ประธานจ๋อ” ลิงแสมที่ถูกเลี้ยงดูจาก พระและชาวบ้าน ในระแวก วัดหนองยาวใต้ สระบุรี มา 4 ปี  ต่อมา “ประธานจ๋อ” ป่วยเป็นก้อนเนื้อในปาก จึงได้หาสถานพยาบาลรักษา และเนื่องจากลิงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงถูกแยกไปเลี้ยงดูที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่านครนายก และอาจไม่มีโอกาสได้กลับมาที่วัดอีก โดยตลอดระยะเวลาที่ “ประธานจ๋อ” ไม่ได้อยู่วัด ข่าวสารของเขาได้รับความสนใจจากบรรดาศิษยานุศิษย์ และผู้ศรัทธา ที่คอยติดตามข่าวผ่านทางเพจของวัด หลายคนแสดงความเป็นห่วง และพยายามเรียกร้องให้พิจารณานำ “ประธานจ๋อ” กลับสู่วัดหนองยาวใต้

ล่าสุด “ประธานจ๋อ” ได้รับอนุญาตให้กลับวัด เพื่อให้เขาได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย วัดหนองยาวใต้ ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็น ศูนย์พักพิงสัตว์ อย่างเป็นทางการ ได้ต้อนรับ “ประธานจ๋อ” กลับบ้าน ท่ามกลางความดีใจของทุกคน

เมื่อมาถึงวัด “จ๋อ” ถูกปล่อยให้เดินสำรวจพื้นที่อย่างอิสระ หลังจากเพียง 1 ชั่วโมง เขาปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว กลับไปนอนในจุดที่เคยอยู่ ยอมให้พระและลูกศิษย์เกาตัวให้ และที่สำคัญ เริ่มกินอาหารได้ แตกต่างจากตอนอยู่ที่เดิม ซึ่งแทบไม่แตะอาหารเลย

การกลับมาของ “จ๋อ” ไม่เพียงสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ศรัทธา แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงพลังแห่งความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสัตว์

พระครูปลัดศิรพงษ์ ปรฺกกโม เจ้าอาวาสวัดหนองยาวใต้ จังหวัดสระบุรี กล่าวว่า หลังจากหายไปนาน 30 วันเต็ม “ประธานจ๋อ” ลิงแสนรู้ที่หลายคนเป็นห่วง ได้เดินทางกลับสู่ วัดหนองยาวใต้ เป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางความยินดี ของเหล่าศิษยานุศิษย์และผู้ติดตาม

โดยตลอดช่วงเวลาที่จากไป “ประธานจ๋อ” มีอาการเครียด ไม่ค่อยกินอาหาร และแสดงพฤติกรรมผิดปกติ แต่เมื่อกลับมายังวัด ซึ่งเป็นสถานที่คุ้นเคย ก็เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น สามารถกินอาหารได้ มีอาการสงบลง และไม่เดินวนอย่างกระวนกระวายเหมือนก่อน

ตอนนี้วัดหนองยาวใต้ ได้รับการจดทะเบียนเป็น ศูนย์พักพิงสัตว์ อย่างเป็นทางการ เปิดรับดูแลสัตว์ที่เจ็บป่วยหรือไร้ที่พึ่ง โดยประชาชนที่ต้องการนำสัตว์มารับการดูแล สามารถติดต่อทางวัดได้โดยตรง การกลับมาของ “ประธานจ๋อ” ได้รับเสียงตอบรับอย่างอบอุ่นจาก FC และผู้ศรัทธาทั่วประเทศ ที่ต่างรู้สึกโล่งใจและทยอยเดินทางมาเยี่ยมที่วัด
 

บางคนถึงกับกล่าวว่า “ตอนที่จ๋อจากไป มันจุกอยู่ข้างใน พอเห็นเขากลับมา รู้สึกโล่งไปหมด” ทางวัดมีแผนจะจัด กิจกรรมปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นการรวมพลังศรัทธา โดยจะเริ่มจาก 1 วัน 1 คืน และอาจขยายเป็น 3 วัน 3 คืน ในอนาคต ซึ่งจะจัดขึ้นหลังจาก งานประจำปีของวัด ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้
 

สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ “ประธานจ๋อ” รวมถึงกิจกรรมทางศาสนา สามารถติดตามได้ทางเพจ “ธรรมะสุขใจปัญญา” ซึ่งมีการไลฟ์สดทำวัตรสวดมนต์ทุกเช้า พร้อมอัปเดตความเป็นอยู่ของ “จ๋อ” วันละ 1 ครั้ง ท้ายที่สุด วัดหนองยาวใต้ขอแสดงความขอบคุณ พี่ปุ๋ม จาก The Hoยe Thailand ที่ช่วยดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นจนสามารถนำ “จ๋อ” กลับวัดได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่มีส่วนช่วยเหลือ สื่อมวลชน Nation ที่ช่วยเผยแพร่เรื่องราวนี้ให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง เรื่องราวของ “จ๋อ” สะท้อนถึง พลังแห่งความเมตตา และความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสรรพสัตว์ สาธุ

เปิดเส้นทาง 30 วัน ช่วย “ประธานจ๋อ” กลับวัด
 

คุณปุ๋ม พีระบุญ เจริญวัย ประธานมูลนิธิฯ และองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ The Hope Thailand กล่าวว่า ถือเป็นความรู้สึกโล่งใจอย่างยิ่ง เพราะนี่คือคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน และในที่สุดก็สำเร็จลุล่วงสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังรู้สึกขอบคุณ พระอาจารย์ ผู้เปี่ยมเมตตาและมุ่งมั่นทำทุกอย่างบนพื้นฐานของความถูกต้อง

ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายและขั้นตอนที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่สามารถดำเนินการได้สำเร็จภายใต้ระเบียบที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ต้องขอชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่จาก กรมอุทยานฯ และ กรมปศุสัตว์ ที่มีบทบาทสำคัญในการจดทะเบียนสถานสงเคราะห์สัตว์ รวมถึงกลุ่มองค์กรและมูลนิธิต่างๆ ที่ช่วยกันผลักดันให้เกิดความคืบหน้า

โดยตนเองมีหน้าที่ดูแลเรื่องกฎหมายและเอกสารให้ครบถ้วน ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ช่วยกันติดตามและเร่งรัดกระบวนการให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ขอขอบคุณ อธิบดีกรมอุทยานฯ คณะทำงาน และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 รวมถึงแฟนคลับและผู้รักสัตว์ทุกคน ที่ร่วมกันต่อสู้และเป็นกำลังใจให้กัน จนทำให้วันนี้เกิดขึ้นได้ด้วยพลังแห่งความสามัคคีและความรักในสิ่งที่ถูกต้อง

FC จ๋อเผยติดตามมา 4 ปี ดีใจที่สุด “จ๋อ” ได้กลับวัด
 

นายสาละ บุญคง FC ผู้ติดตาม “จ๋อ” มาเป็นเวลานาน 4 ปี เดินทางจากลาดพร้าว กรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยมลิงแสนรู้ประจำ วัดหนองยาวใต้ หลังทราบข่าวว่า “ประธานจ๋อ” ได้กลับคืนสู่บ้านเดิมระบุว่า “ติดตามน้องมาตลอดสี่ปี เพราะความน่ารักของเขา ตอนแรกที่เข้ามาดูเพจวัด ก็ได้ฟังธรรมะพระอาจารย์ไปด้วยเลย แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอน้องจ๋อตัวจริง จนกระทั่งทราบข่าวว่า เขาถูกย้ายไปที่อื่น ตอนนั้นรู้สึกไม่ดี น้ำตาจะไหล เพราะไม่รู้ว่าเขาจะไปอยู่ยังไง แล้วก็เหมือนกับเราไม่ทันตั้งตัว ตอนเช้ายังอยู่กับพระอาจารย์อยู่เลย แต่พอสายมากลับได้ยินว่าจะต้องย้ายออกไปถาวร ตกใจมาก”

คือเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมเขาที่จังหวัดนครนายก “ตอนนั้นเห็นเขาไม่ค่อยมีความสุข เอาตัวห้อยกับผนัง เหมือนเขาเครียดมาก พอได้ข่าวว่าเขาได้กลับมา ดีใจที่สุด เมื่อวานทราบข่าว วันนี้เลยรีบมาเจอเลยครับ”

“นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยี่ยมน้องจ๋อที่วัด ความรักและความเอ็นดูเป็นสิ่งที่ทำให้ผมติดตามเขามาโดยไม่รู้ตัว ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเดินทางมาไกลขนาดนี้ แต่สุดท้ายแล้วมันคือความผูกพัน ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานและทุกหน่วยงานที่ช่วยกันดูแล ถ้าไม่มีพี่ๆ เจ้าหน้าที่ในวันนั้น วันนี้ก็คงไม่มีจ๋อได้กลับวัด ขอบคุณทุกคนมากครับ”

เรื่องราวของ “จ๋อ” ไม่ใช่แค่เรื่องของลิงตัวหนึ่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเมตตา และสายใยที่เชื่อมโยงกันระหว่างคน สัตว์ และศรัทธาในพระพุทธศาสนา