7 พฤษภาคม 2568 ดร.ณรงค์ชัย ใหญ่สว่าง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพอินเตอร์ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องตัดสินใจเดินหน้าโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) หลังเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจ หลังมาตราการกำแพงภาษีทรัมป์ ที่คาดว่า จีดีพีของประเทศโตอยู่ที่ 1.6-2.3%

สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการเป็นอันดับแรกคือ การสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจนและรอบด้านที่ผ่านมารัฐบาลยังขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) เนื่องจากประชาชนทุกคนเข้าใจว่าการจะมีคอมเพล็กซ์ก็คือกาสิโน ทั้งที่จริงแล้วเป็นส่วนน้อยมาก

อย่างลาสเวกัส ซึ่งแม้จะเป็นเมืองที่มีภาพลักษณ์ของการเล่นคาสิโนอย่างหนัก แต่สัดส่วนรายได้จากคาสิโนกลับมีเพียง 30% ขณะที่รายได้อีกกว่า 70% มาจากการแสดงโชว์ คอนเสิร์ต การเข้าพัก และการท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยต่างๆ
 

“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่กาสิโนทั้งหมด กาสิโนเป็นเพียงกิมมิคในการดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักให้เข้ามาลงทุนและท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น”
 

ดร.ณรงค์ชัย กล่าวว่า เม็ดเงินรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากกิจกรรมอื่นๆ เช่น การขายสินค้า ภาษีต่างๆ รวมถึงการเพิ่มจำนวนวันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจาก 3-4 วัน เป็น 7-10 วัน ซึ่งจะส่งผลให้รายได้เฉลี่ยของรัฐบาลเพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า จากปัจจุบันเฉลี่ย 4,000 กว่าบาท เป็น 12,000 บาทต่อทริป หรือมากกว่านั้น
 

“เพราะฉะนั้น อันดับแรกคือการสื่อสารให้ชัดเจน อาจจะตั้งเวทีเสวนาในเรื่องนี้ รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็น ซึ่งผมก็เลยเห็นว่ารัฐบาลก็เริ่มดำเนินการในส่วนนี้แล้ว อันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี” นายณรงค์ชัยกล่าว
 

ประการต่อมา รัฐบาลต้องมีการประกาศมาตรการและกระบวนการต่างๆ ที่จะทำให้การดำเนินงานของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นไปอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เช่น การมีระบบ KYC ที่เข้มงวด มาตรการตรวจสอบนักการเมือง (Politically Exposed Persons – PEPs) ที่ชัดเจน 

นอกจากนี้ต้องมีมาตรการป้องกันการฟอกเงินที่มีระบบติดตามทางดิจิทัล (Digital Footprint) และมาตรการอื่นๆ ที่รัดกุม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าโครงการนี้จะไม่มีปัญหาเรื่องการฟอกเงิน และจะได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด รวมถึงต้องผลักดันให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

ส่วนของการเลือกทำเลที่ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายณรงค์ชัย เสนอแนะว่า ควรอ้างอิงจากโมเดลต่างประเทศที่มักตั้งอยู่ใกล้กับสนามบิน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่นเดียวกับสิงคโปร์และเกาหลีใต้ ซึ่ง Entertainment Complex ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินและมีระบบขนส่งที่สะดวก  ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงสามารถเดินทางไปยังแหล่งช้อปปิ้งและคาสิโนได้อย่างสะดวกสบาย บางแห่งสามารถเดินเท้าถึงกันได้ 

สำหรับประเทศไทย นอกจากพื้นที่รอบสนามบินสุวรรณภูมิแล้วก็มีพื้นที่คลองเตยในเขตกรุงเทพมหานคร เนื่องจากตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หากมีการพัฒนาที่ดี อาจจะส่งผลให้มูลค่าที่ดินในบริเวณนั้นสูงขึ้นจากราคาที่ดินเฉลี่ยปัจจุบันประมาณ 4 ล้านบาทต่อไร่ อาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 10 เท่า หากมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้ามาและมีการเก็บค่าเช่า

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือความสะดวกในการเข้าถึงและการใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่คลองเตยหรือบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากปัจจุบันสภาพการจราจรในกรุงเทพฯ ค่อนข้างหนาแน่น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการจราจรทางบก ทางราง (รถไฟฟ้า รถราง) หรือทางน้ำ (ในกรณีของพื้นที่ริมแม่น้ำ เช่น คลองเตย) เพื่อให้การเดินทางไปยังเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย เช่นเดียวกับไอคอนสยามที่มีการเข้าถึงหลากหลายช่องทาง
 

ส่วนประเด็นที่ไม่สนับสนุนให้ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น
 

หากพิจารณารูปแบบในต่างประเทศ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มุ่งเน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ มักให้ความสำคัญกับการเดินทางที่สะดวกจากสนามบิน 

นอกจากนี้หากตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากกรุงเทพฯ 2-3 ชั่วโมง การเดินทางก็จะเริ่มไม่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องเสียเวลาเดินทางจากสนามบินเป็นเวลานาน ทั้งขาไปและขากลับ อาจส่งผลให้ความน่าสนใจลดลง นอกจากนี้ หากตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่อาจเป็นคนไทยในพื้นที่ ทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ในเชิงเปรียบเทียบด้านการเดินทาง หากปริมาณผู้ใช้บริการน้อย การพัฒนาเส้นทางคมนาคมอาจไม่คุ้มค่า และการดำเนินงานอาจขาดทุนได้ ยกตัวอย่างเช่น โครงการ Airport Rail Link ที่มีปริมาณผู้โดยสารไม่สูงเท่าที่คาดหวัง ทำให้การดำเนินงานไม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

ดังนั้น การมีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แน่นอนในระดับหนึ่งจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ทั่วโลกมักตั้งอยู่ใกล้กับสนามบิน หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกัน หรืออาจจะเป็นเมืองรองที่มีศักยภาพ เช่น ญี่ปุ่นที่เลือกเปิดในโอซาก้าแทนโตเกียว ทำให้เราอาจพิจารณาเมืองรองของไทย เช่น เชียงใหม่หรือภูเก็ตได้เช่นกัน หากมีการพัฒนาระบบคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม

ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจไทยค่อนข้างชะลอตัว ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ทำให้หลายสำนักเศรษฐกิจปรับลดประมาณการการเติบโตของ GDP ไทยลง หากรัฐบาลไม่มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ก็อาจส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอยู่ในระดับต่ำในภูมิภา

ดังนั้น เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จึงเป็นโครงการที่มีความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดความเชื่อมั่นของนักลงทุน แม้ว่าการก่อสร้างอาจต้องใช้เวลา แต่การมีโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้จะส่งสัญญาณเชิงบวกต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ได้มีเพียงคาสิโน

แต่ยังรวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น การค้าขายสินค้า โดยเฉพาะสินค้า OTOP ซึ่งในหลายประเทศมีนโยบายส่งเสริมการขายสินค้าปลอดภาษีในเขตเมือง ทำให้สินค้ามีราคาที่น่าสนใจมากขึ้น หากนำมาปรับใช้ในไทย ก็จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

สำหรับกระแสการคัดค้าน นายณรงค์ชัย มองว่าเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่มักออกมาคัดค้านโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล จึงขอย้ำว่ารัฐบาลจำเป็นต้องเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน และชี้แจงถึงมาตรการควบคุมต่างๆ ที่จะนำมาใช้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจที่ตรงกัน