11 พฤษภาคม 2568 กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพหญิงสาวหนังศีรษะเป็นแผลวงกว้าง พร้อมข้อความว่า “!! เตือนภัย!! น้องอายุ 16 เป็นนักกีฬาของจังหวัดเริ่มแรกน้องไปทําสีผมที่ร้านทําผม แห่งหนึ่งในจังหวัดแพร่ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2568 พร้อมเพื่อนอีก 2 คน น้องแสบร้อนที่หัว ทางร้านล้างออกให้หลังจากน้องมีอาการ แต่หัวน้องบูดบวมละปริ มีนํ้าใสๆซึมออกมา และผมน้องเป็นสังกะตังออกจากร้านมา แต่น้องมีภารกิจเดินทางไปแข่งกีฬาแห่งชาติที่ชลบุรี โดยไม่ได้พบหมอตั้งแต่แรก ได้แต่ยาทาแผล

กลับมาแม่ได้พาไปพบหมอผิวหนังแห่งหนึ่ง 2 ครั้ง แต่ไม่ดีขึ้น แม่ก็เปลี่ยนหมอก็ยังไม่ดีขึ้น จนหัวน้องเป็นแผลลาม และน้องแพ้ยาที่คุณหมอใช้รักษาจนผื่นขึ้นทั้งตัว กลับมาจากภารกิจ แม่พาน้องเข้าหาหมอที่ รพ.แพร่ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 หมอให้น้องแอดมิทด้วย สาเหตุจากแผลติดเชื้อ กินไประดับ 3 ของหนังศีรษะ หมอทําการผ่าตัดครั้งแรกวันที่ 30 เมษายน 2568 และจะทําการผ่าตัด ครั้งที่ 2 เพื่อนําหนังตรงขามาปะ ให้น้อง ในวันที่ 14 พฤษภาคม  2568 ที่จะถึงนี้

แม่ไม่มีปัญญาไปสู้รบปรบมือกะทางร้าน แม่เกรงใจคนที่พาไปทํา จึงยังไม่ได้เข้าไปคุยกับทางร้าน แม่ขอความเห็นใจ แม่ขอเตือนภัยในโพสต์นี้ สําหรับคนที่ชอบย้อมผมหรือทําสีผมกับช่างที่ไม่มีความชํานาญ และใช้ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ แม่วอนขอให้คุณหมอที่เชี่ยวชาญมารักษาน้องเพราะน้องยังเด็ก และขอให้ทางร้านออกมารับผิดชอบและเยียวยาให้ น้องด้วยค่ะ”

เพียงข้ามคืนมีผู้แชร์ข้อความนี้ไปเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดที่จังหวัดแพร่

ล่าสุด ที่ รพ.แพร่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้ปกครองของน้องอายุ 16 ปี เล่าว่า เบื้องต้นยังไม่ได้คุยกับเจ้าของร้าน ยังไม่ได้ติดต่อไป ไม่รู้จักกับร้านเป็นการส่วนตัว น้องไปทำผมกับเพื่อน ซึ่งร้านนี้น้องเคยไปทำมาแล้ว แต่ตัวน้องไม่เคยกัดสีผม ฟอกสีผม รอบนี้ทางร้านเขียนมาให้ว่าใช้น้ำยาแบบไหน วันแรกที่ทำมานั้นศีรษะน้องปูด มีแผลปริ เป็นหนองไหลออกมา มีจุดเดียวที่หนองไม่แห้ง น้องได้รับยาที่ร้านขายยา และเดินทางไปชลบุรีเพราะต้องไปแข่งกีฬา ซึ่งวันนั้นคาดว่าทางร้านน่าจะรับรู้ เพราะน้องกลับมาในสภาพผมเป็นสังกะตัง ทางร้านล้างผมให้ แต่ไม่มีการเป่าผม ไม่ได้ทำการใดๆ

หลังจากน้องกลับมา พอไปหาหมอผิวหนัง ได้ยามา ผ่านไปประมาณ 5 วันแผลเริ่มมีหนองบางจุดก็แห้งไปแล้ว เราไม่รู้ว่าน้องแพ้ยา ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน แต่พอจุดหนึ่งแห้ง อีกจุดก็ผุดขึ้น ซึ่งพอพามาหาหมออาการมันหนักกว่าที่คิด แต่เดิมตนไม่เคยคุยหรือเรียกร้องจากทางร้าน น้องเองมีพลังบวกมาก มีกำลังใจ

ตอนแรกคิดว่าจะรักษาไปเรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะต้องผ่าตัดหลายรอบขนาดนี้ ไม่คิดว่าน้องจะแพ้ยา หมอที่รักษาบอกว่าเป็นแผลติดเชื้อ ในส่วนของร้านตนก็อยากคุยแต่ไม่รู้ว่าร้านจะว่าอย่างไร ไม่ได้ติดต่อไป ยังไม่เคยพบ ตอนนี้เน้นไปที่การรักษาน้อง ตนเองก็ยังไม่ทราบว่าเขาทราบเรื่องหรือยัง พอเรื่องเป็นแบบนี้เราก็ไม่รู้ว่าเขาพร้อมพูดกับเราไหม

อยากฝากถึงผู้ปกครองว่า ภูมิคุ้มกันของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากอยากทำผมอย่าเสียดายเงิน หาน้ำยาดีๆ ช่างที่เป็นมืออาชีพ สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้  อยากให้หาทำกับช่าง ที่ไว้ใจได้