KUBET – ชาติยุโรปอนุญาตครั้งแรกให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลยิงรัสเซียได้
ชาติยุโรปอนุญาตครั้งแรกให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลยิงรัสเซียได้
เยอรมนีและชาติพันธมิตรอื่น ๆ ของยูเครน อนุญาตเป็นครั้งแรกให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่มอบให้โจมตีรัสเซียได้ ขณะที่รัสเซียเตือนเป็นการตัดสินใจที่อันตราย แต่ยืนยันยังพยายามร่างแผนสันติภาพ
นายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ซ ของเยอรมนี กล่าวในการประชุมของชาติยุโรปที่กรุงเบอร์ลินเมื่อวันจันทร์ (26 พฤษภาคม) ว่า จากนี้ไปไม่มีข้อห้ามเรื่องขีปนาวุธพิสัยการยิงเท่าใดก็ตามที่เยอรมนี, ฝรั่งเศส และอังกฤษ หรือสหรัฐฯ จัดหาให้ยูเครน ทำให้ยูเครนสามารถป้องกันประเทศ โดยใช้อาวุธเหล่านั้นโจมตีเป้าหมายทางทหารในดินแดนรัสเซียได้เป็นครั้งแรก
การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นการปรับท่าทีครั้งสำคัญจากเดิมที่ยืนยันปฏิเสธข้อเรียกร้องของยูเครนที่ต้องการใช้อาวุธพิสัยไกลของชาติตะวันตกโจมตีเป้าหมายลึกเข้าไปในแผ่นดินรัสเซีย แต่เมิร์ซซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่ระบุว่า เยอรมนีจะส่งขีปนาวุธพิสัยไกล “ทอรัส” ให้ยูเครนหรือไม่ ขณะที่ในสมัยโอลาฟ โชลซ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ย้ำคัดค้านการอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีดินแดนรัสเซียได้
ส่วนสหรัฐฯ ยกเลิกข้อห้ามในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนในขณะนั้นอนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS โจมตีในแผ่นดินรัสเซียได้ หลังจากเพิ่งยอมจัดส่งขีปนาวุธดังกล่าวให้ยูเครนครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2567
ที่ผ่านมารัสเซียขู่อย่างเปิดเผยว่า การยกเลิกข้อห้ามใช้ชีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซียจะหมายถึงว่า ชาติสมาชิกองค์การนาโตเข้าร่วมสงครามในยูเครนด้วย และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ หากถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ ที่ยูเครนได้รับการสนับสนุนจากชาตินิวเคลียร์
ขณะที่โฆษกทำเนียบเครมลินของรัสเซีย แถลงในวันจันทร์ว่า หากการตัดสินใจของเยอรมนีและชาติพันธมิตรอื่น ๆ เป็นเรื่องจริง จะสวนทางกับความคาดหวังของรัสเซียที่ต้องการบรรลุข้อตกลงสันติภาพ และเป็นการตัดสินใจที่อันตราย
การตัดสินใจของชาติยุโรปมีขึ้นหลังจากรัสเซียโหมโจมตีทางอากาศด้วยขีปนาวุธและโดรนทั้งในกรุงเคียฟและทั่วยูเครนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถึงกับโพสต์เมื่อวันจันทร์แสดงความไม่พอใจต่อปูตินอย่างรุนแรง โดยระบุว่า “บ้าไปแล้ว” และเป็นการสังหารผู้คนจำนวนมากโดยไม่จำเป็น
ส่วนประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า รัสเซียโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธมากถึงราว 900 ครั้งในช่วง 3 วันติดต่อกัน และเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรเพิ่มการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
นอกจากนี้โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงในวันอังคาร (27 พฤษภาคม) ประณามการโจมตีด้วยโดรนของฝ่ายยูเครนช่วงเช้ามืด และบอกว่า ไม่ใช่สิ่งที่จะส่งเสริมการแสวงหาแนวทางสันติเพื่อยุติความขัดแย้ง และกระทรวงกลาโหม เผยว่า สกัดโดรนยูเครนได้ 99 ลำ
และโฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย แถลงในวันอังคาร (27 พฤษภาคม)ว่า รัสเซียกำลังพยายามร่างบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับแผนสันติภาพ ที่จะระบุจุดยืนในหลายเรื่อง เช่น หลักการยุติความขัดแย้ง, กรอบเวลาข้อตกลงสันติภาพ และการหยุดยิงชั่วคราว หากสามารถบรรลุข้อตกลงต่าง ๆ และร่างนี้จะส่งให้ยูเครนพิจารณา โดยหวังว่ายูเครนจะร่างแผนสันติภาพและส่งให้รัสเซียด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้โฆษกฯ ยังเตือนถึงชาติพันธมิตรของยูเครนด้วยว่า ชาติที่ต้องการสงครามก็ไม่ควรวางแผนส่งอาวุธเพิ่มให้ยูเครน และอย่าทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเพื่อขัดขวางกระบวนการเจรจาที่มีความคืบหน้าหลังการพูดคุยรอบแรกที่นครอิสตันบุลของตุรกีเมื่อเร็ว ๆ นี้
ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงในวันอังคาร (27 พฤษภาคม)ว่า จีนไม่เคยจัดส่งอาวุธร้ายแรงให้ฝ่ายใดในสงครามยูเครน และควบคุมวัตถุที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งทางพลเรือนและทางทหาร พร้อมกับยืนยันคัดค้านข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง หลังจากฝ่ายยูเครน บอกว่า จีนจัดหาเครื่องมือ, ดินปืน และวัตถุและอุปกรณ์สำคัญให้กับโรงงาน 20 แห่งของอุตสาหกรรมทางทหารของรัสเซีย