KUBET – รวบยกทีม 6 คนร้าย ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลกากร ขับชน รปภ.ดับ
รวบยกทีม 6 คนร้าย ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลกากร ขับชน รปภ.ดับ
รวบยกทีม 6 คนร้าย แก๊งรถตู้กระตุกหนวดเสือ บุกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลกากร ขับรถชน รปภ.เสียชีวิต อ้างดื้อชน รปภ.เพราะเหตุนี้ เปิดพฤติการณ์ “นายแบงค์” หัวโจก
3 มิถุนายน 2568 จากเหตุคนร้ายใช้รถตู้ ก่อเหตุปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ในโกดังเก็บของกลางของกรมศุลกากร ก่อนขับรถหนี โดยขับรถถอยชน รปภ.เสียชีวิต เมื่อกลางดึกวันที่ 1 มิถุนายน 2568
ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้ ที่สน.ท่าเรือ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผบ.ตร. เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดี ภายหลังจากเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาในคดีได้แล้ว 5 ราย ประกอบด้วย นายเอกชัย หรือเอก อายุ 42 ปี , นายภียกร หรือคิง อายุ 27 ปี , นายธรทร หรือจีน อายุ 41 ปี , นายนรินทร์ หรือเบิร์ด อายุ 38 ปี , นายสุวัฒน์ หรือเล็ก อายุ 42 ปี
โดย พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล บอกว่า จากการสอบปากคำ ทั้ง 5 คน ยังไม่รวมตัวการสำคัญคือ นายสิทธิศักดิ์ หรือ แบงค์ อายุ 38 ปี ให้การคล้ายกันว่า นายแบงค์ เป็นคนรวบรวมกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด แล้วไปขโมยของที่โกดัง ส่วนเรื่องค่าจ้าง เท่าที่ทราบจะมีการจัดแบ่งให้ แต่ตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การ เพราะทั้ง 5 รายอ้างว่าเป็นการกระทำครั้งแรก ยังไม่ได้มีการแบ่งปันส่วนแบ่งกัน
ส่วนมีคนชี้เป้าหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ประจวบ เผยว่า ตำรวจก็สงสัยเรื่องของการชี้เป้า ว่าจะมีใครเกี่ยวข้องหรือไม่ จึงยังไม่ได้ตัดประเด็นทิ้งและจะมีการขยายผลต่อไป
แต่จากข้อมูล พบว่า ตัวของ นายแบงค์ ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทางออนไลน์ ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าหายาก จึงหาช่องทางในพื้นที่เก็บของกลางของกรมศุลกากรเข้ามาก่อเหตุขโมยของ เพราะของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดมาได้ จะต้องส่งให้ศุลกากรเก็บรักษา เนื่องจากเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลังจากนี้ ได้กำชับเข้มงวด การรักษาของกลางเพิ่มเติมด้วยเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
ขณะที่ นายเฉลิมศักดิ์ บัวแก้ว ผู้อำนวยการส่วนของกลาง บอกว่า ที่ผ่านมา ยังไม่พบว่ามีการลักขโมยของเกิดขึ้น และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พบว่ามีการลักขโมย เชื่อได้ว่าเป็นการสุ่มเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนจะมีเกลือเป็นหนอนหรือไม่ เบื้องต้นต้องดูตามข้อเท็จจริงเป็นหลัก ขึ้นอยู่ที่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้การจัดเก็บของกลางมีการหมุนเวียนตลอดและจะไม่ติดป้ายเพื่อป้องกันการโจรกรรม ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า และสินค้าต้องห้ามจะมีการหมุนเวียน นำไปเก็บในตู้ดังกล่าว มีหลายล็อตรวมกันอยู่ จากหลายคดี โดยเป็นไปได้ว่ามีสินค้าล็อตล่าสุดที่เพิ่งเข้ามา อยู่ท้ายๆตู้ เพราะมีเลขสินค้าปี 2568
และพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เปิด ที่บางส่วนมาเช่าจัดงานคอนเสิร์ต แข่งบอล คนทั่วไปเข้ามาได้ จึงไม่แปลกที่จะมีคนนอกรู้ว่า มีการนำสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ และตู้เก็บบุหรี่ไฟฟ้ามีทั้งหมด 5 ตู้ จาก 55 ตู้ อยู่กระจัดกระจายกัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ถือบัญชีในกรมศุลกากรที่รับรู้ข้อมูล แต่บุคคลภายนอกก็อาจจะรับรู้ได้โดยทั่วไป
ต่อมา 11.00 น. หลังจากตำรวจกดดันอย่างหนัก กระทั่งสามารถจับกุมนายแบงค์ได้ โดยหลังจับกุมตัวได้ ก่อนคุมตัว มาสอบสวนที่ห้องสืบสวนของ สน.ท่าเรือ
โดยนายแบงค์ อ้างว่า ทำครั้งแรก และรู้จักกับคนที่ดูแลสนามบอล ถึงรู้ตู้เก็บบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ตรงไหน และทำเองทั้งหมด ไม่มีใครสั่ง รวมถึงไม่ได้จ้างเพื่อนมาร่วมก่อเหตุ แต่เต็มใจมาเอง และขอโทษครอบครัว รปภ.ผู้เสียชีวิต เพราะไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน โดย สาเหตุมาจากเข้าเกียร์ผิด
หลังสอบปากคำในเบื้องต้น พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า จากการสอบปากคำ นายแบงค์ สารภาพว่า สาเหตุที่รู้ว่าของกลางอยู่ตู้ไหน เพราะมีคนชี้เป้า ซึ่งตำรวจทราบข้อมูลแล้ว ว่าเป็นใคร ชื่ออะไร โดยพบว่า เป็นคนในพื้นที่มีความใกล้ชิดกับนายแบงค์ ตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม
จากการสอบปากคำตัวของนายแบงค์ ไม่ได้ขโมยบุหรี่ไฟฟ้าครั้งนี้ครั้งแรก แต่ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ที่เป็นล็อตใหญ่ๆ โดยครั้งแรกได้ของไปเต็มคันรถประมาณ 270,000บาท แล้วนำไปขายทางออนไลน์ แต่ล็อตย่อยๆ จะต้องทำการสืบสวนก่อน ขอเวลาตำรวจทำงานก่อนเพราะเพิ่งได้ตัวนายแบงค์มา
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 5 รายที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ใน 5 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ฯ , ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป , ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ , ซ่องโจร
ส่วน นายแบงค์ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม ฐานฆ่าผู้อื่น เนื่องจากเป็นคนขับรถชน รปภ.เสียชีวิต