KUBET – “เอกนัฏ” ทลายโกดังยางเสื่อมซุกป่า เตรียมส่งขาย 7.45 หมื่นเส้น
“เอกนัฏ” ทลายโกดังยางเสื่อมซุกป่า เตรียมส่งขาย 7.45 หมื่นเส้น
สุดอันตราย! “เอกนัฏ” บุกทลายโกดังยางเสื่อมซุกป่า เตรียมส่งขายกว่า 7.45 หมื่นเส้น พบโมเดลธุรกิจคลาสสิก “เจ้าของคนจีน“ เปิดแน่บออกนอกประเทศไปแล้ว
9 มิถุนายน 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับการร้องเรียนแจ้งเบาะแสขบวนการลักลอบนำยางรถยนต์เสื่อมสภาพ มาดัดแปลงก่อนนำออกจำหน่าย ซึ่งหากผู้ซื้อนำไปใช้เป็นยางรถยนต์ก็เสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิต จึงได้มอบหมายให้ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันท์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าคณะตรวจการณ์สุดซอย หรือ “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโดยเร่งด่วน
เบื้องต้นว่า พบการจัดเก็บยางรถยนต์ผิดกฎหมายในลักษณะโกดังซุกซ่อนภายในป่าสวนยาง และมีคนงานจำนวนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งได้วิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
“ทีมสุดซอย ตรวจพบกองยางรถยนต์จำนวนมาก ส่วนใหญ่จะถูกเจียรขัดผิวแก้มยางทั้ง 2 ด้าน เพื่อลบชื่อยี่ห้อ และวันผลิตยางออกบางตัวอักษร ซึ่งเป็นเจตนาปกปิดอำพรางข้อมูลบนยางอย่างชัดเจน จึงได้ทำการยึดอายัดทั้งหมดประมาณ 74,504 เส้น มูลค่าโดยประมาณเส้นละ 3,000 บาท รวมมูลค่าอายัดทั้งสิ้น 223,512,000 บาท“ นายเอกนัฏ ระบุ
นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า สถานที่กองเก็บยางรถยนต์ผิดกฎหมายนี้เป็นลักษณะโกดังซุกซ่อนกลางป่ายาง ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลมะขามคู่ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง จากการตรวจค้นภายในตู้สำนักงาน พบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด อาทิ ใบโอนย้ายสินค้าที่ระบุว่าเป็นของ บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 4 ใบ สมุดบันทึกรายละเอียดยางรถยนต์ และหินเจียรมือถือ เป็นต้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ควบคุมคนงานได้รวม 14 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ที่เหลือเป็นชาวจีนไปดำเนินคดี
จากการสอบถามคนงานแจ้งว่า เจ้าของสถานที่ดังกล่าวเป็นคนไทยและให้ชาวจีนเช่าพื้นที่ ซึ่งเจ้าของชาวจีนได้ออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนยางรถยนต์ส่วนใหญ่มีต้นทางมาจาก บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ยังมียางล้อรถยนต์ของบริษัทอื่นๆ ปะปนอยู่ด้วย ได้แก่ บริษัท จงเซ่อ รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เจนเนอรัล รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด และ บริษัท หวาอี้ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งทั้ง 3 บริษัทตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง
ขณะที่ นางสาว LAN, JININA ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบัญชีของ บริษัท หลิงหลง จำกัด ให้การว่า บริษัท หลิงหลง จำกัด ได้นำยางมาเก็บไว้ในที่เกิดเหตุ โดยมิได้ทำสัญญาเช่า แต่รู้จักกับนายโจฮุย ซึ่งเป็นชาวจีนด้วยกัน และนายโจฮุยรู้จักกับเจ้าของที่ดิน จึงนำยางรถยนต์ทั้งหมดเป็นยางเสื่อมคุณภาพแ ละเป็นยางตกเกรดมาเก็บไว้เพื่อรอทำลาย
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นยางเสื่อมคุณภาพและเป็นยางตกเกรดที่รอทำลาย ทำไมจึงไม่ส่งไปยังบริษัทรับกำจัดที่ปลายทางเลย แต่ทำไมถึงนำมาพักไว้ที่โกดังแห่งนี้ก่อน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) จึงดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเรื่องการกำจัดยางเสื่อมคุณภาพ ที่ต้องส่งกำจัดให้ถูกต้อง และยึดอายัดยางรถยนต์ทั้งหมด พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าว