KUBET – คดี “พระพล” อดีตแม่ชีนำคลิบเสียงลับ ร้อง “หลวงพี่น้ำฝน” จัดการ
คดี “พระพล” อดีตแม่ชีนำคลิบเสียงลับ ร้อง “หลวงพี่น้ำฝน” จัดการ
งานนี้ต้องให้ถึงมือตำรวจพระ! คดี “พระพล” ไม่คืบ อดีตแม่ชีนำคลิบเสียงลับร้อง “หลวงพี่น้ำฝน” จัดการ ลั่นหากพิสูจน์ได้ชัด จะเอาผิดทางคดีและทางสงฆ์
23 มกราคม 2568 ที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม “หมอปลา” และภรรยา ได้นำ นางลิน อดีตแม่ชีเข้าพบกับพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ “หลวงพี่น้ำฝน” เจ้าเอาวาสวัดไผ่ล้อม เพื่อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยติดตามกรณี “พระอาจารย์พล” พระชื่อดังในจังหวัดมุกดาหาร กับกรณีพฤติกรรมที่ถูกกล่าวหาว่า ไม่เหมาะสมทางเพศภายในวัดหลายครั้ง หลังมีการร้องไปยังคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร แล้วเรื่องกลับเงียบไป จึงหวั่นว่าคดีจะเป็นมวยล้มต้มคนดู
โดยวันนี้ได้ หมอปลา มีการนำคลิปลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่อื่นมาก่อน นำส่งให้หลวงพี่น้ำฝน เพื่อประกอบการพิจารณา ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนราชการและคณะสงฆ์ เพื่อพิจารณาผลให้ทำการสึกออกไปจากวงการผ้าเหลืองไป โดยการเข้าร้องเรียน หมอปลา ได้นำตัว นางลิน อดีตแม่ชี เข้าให้ข้อมูลกับหลวงพี่น้ำฝนด้วย
หมอปลา กล่าวว่า การที่ต้องมาร้องเรียนกับ หลวงพี่น้ำฝน เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีการนำเอกสารข้อมูลต่างๆ ที่ฝ่ายหญิงถูกกระทำ นำส่งร้องเรียนไปแล้วที่หน่วยงานต่างๆ แต่พบว่า คณะสงฆ์ในจังหวัดได้มีการออกมาเอื้อประโยชน์ และยังไม่กำหนดให้พระพลทำการสึกออกไป ด้วยความเชื่อมั่นในการทำงานของหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งมีประสบการณ์ เป็นตำรวจพระ จึงน่าจะช่วยให้มีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนา และทางคณะสงฆ์ ให้มีตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว เพราะที่ผ่านมามีหลักฐานหลายอย่างที่เด่นชัด แต่กลับยังไม่มีการพิจารณาโทษให้ชัดเจนแต่อย่างใด
“วันนี้ผมต้องการให้มีการดำเนินการอย่างชัดเจน เพราะหลายครั้งแล้วที่มีการติดตามเรื่องแต่ก็เงียบ ทั้งที่ในคลิปก็ปรากฎพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมชัดเจน”
หมอปลา กล่าวว่า จากการสอบถามเพิ่มเติม ยังรู้อีกว่า ช่วงที่พระพลมีปัญหากันกับฝ่ายหญิง เป็นเพราะลุงพลได้เข้ามาที่วัด และมียูทูบเบอร์มาทำคอนเทนต์ ทำให้ฝ่ายหญิงกลัวความวุ่นวาย ทำให้ต้องมีการหลบออกไปจากวัด จนเป็นความห่างเหิน และมีการให้ข้อมูลออกมาในที่สุด
อยากจะฝากบอกพระพลว่า ลุงพลเป็นคนทำให้วัดวุ่นวายและเกิดปัญหา ก่อนหน้านี้ทราบว่า วัตถุมงคลของพระพลเป็นที่หายาก แต่วันนี้อยากบอกว่า หากใครจะหาก็พอจะหาได้ แต่ไปหาคุ้ยเอาที่ถังขยะ และอยากให้เรื่องนี้มีการดำเนินที่ชัดเจนคือ จะต้องทำการสึกพระรูปนี้ออกไปให้ได้”
ขณะที่ นางลิน อดีตแม่ชี บอกว่า เรื่องต่างๆ ทั้งทางคดีความ และการร้องเรียนไปยังคณะสงฆ์ ได้ดำเนินการไปจนหมดแล้ว แต่วันนี้ยังมีลักษณะการคุ้มครองพยานอยู่ ที่ต้องมาร้องหลวงพี่น้ำฝน เพราะเชื่อว่าในคณะสงฆ์จะยังไม่มีการขับเคลื่อนใดใด จึงอยากให้ท่านช่วยเป็นสื่อในการติดต่อประสานให้จบสิ้น
ขณะที่ “หลวงพี่น้ำฝน” เมื่อได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดได้ให้ความเห็นว่า ลักษณะดังกล่าวจากเสียงคลิปที่ได้ ฟังเป็นการพูดคุยของคนทั้งสองคน ในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง แต่ต้องขอให้ความเห็นว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งออกเป็นสองกรณีคือ
หนึ่งในเรื่องทางกฎหมาย ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ให้ชัดและมีหลักฐานมัดให้แน่นว่า คลิปเสียงนั้นเป็นของจริงไม่ได้ถูกตัดต่อ รวมถึงต้องมีหลักฐานที่แน่ชัด หากเป็นคลิปที่ชัดเจนทางกฎหมายก็น่าจะดำเนินคดีไปกันได้
ส่วนทางคณะสงฆ์ก็แยกเป็นอีกทางหนึ่ง ซึ่งที่หมอปลาบอกว่า คณะพระสงฆ์ได้มีการช่วยเหลือกัน เรื่องนี้ฟังแล้วเจ็บปวด แต่เรื่องเพิ่งมีการร้องเรียนเชื่อว่า ยังมีการดำเนินการกันอยู่ ซึ่งตอนนี้อาตมาจะรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดจากฝ่ายหญิง เพื่อขอประสานงานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์ที่ดำเนินการว่า มีความคืบหน้าเป็นเช่นไร แต่ขอให้หมอปลาเชื่อมั่นในการทำงานของคณะสงฆ์ด้วย เพราะการปกครองคนในสังคม กับแวดวงของคณะสงฆ์นั้น มีรูปแบบที่ต่างกัน
“หากเป็นอาตมารู้ว่ากระทำผิดแบบนี้ถ้า ก็จะขอสึกไปแล้ว เพราะมันเป็นมลทินในวงการสงฆ์ จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวทำจะสูงจะต่ำอยู่ที่ทำตัว อาตมาขอฝากเรื่องนี้ไว้ เพราะเป็นกรรมของแต่ละบุคคล โดยคนที่กระทำต้องมีสำนึกว่า ได้กระทำผิดจริงหรือไม่”