KUBET – “กมธ.ทหาร” เสวนาข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา ชี้ไทยไร้เดียงสาการเมือง

“กมธ.ทหาร” เสวนาข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา ชี้ไทยไร้เดียงสาการเมือง

“กมธ.ทหาร” จัดเสวนาข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา สะท้อนไทยไร้เดียงสาทางการเมือง แฉเจ้าของบริษัทฟอกเงินรายใหญ่เอี่ยว“ฮุนเซน”

5 กรกฎาคม ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการทหาร (กมธ.ทหาร) จัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ: “การใช้กลไกการปราบปรามการฟอกเงิน ในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง: กรณีศึกษา ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา” โดยมี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ นายชยพล สท้อนดี โฆษกกรรมาธิการฯ พันตำรวจเอก สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ นายสุภลักษณ์ กาญจนขุนดี นักวิชาการอิสระ เป็นวิทยากร

นายวิโรจน์ กล่าวเปิดการสัมมนาเกี่ยวกับการปราบปรามการฟอกเงินว่า ปัจจุบันการโอนเงินสามารถทำได้ผ่านแอปหมดแล้ว  แต่สาเหตุที่สมัยก่อนเราต้องการกดดันให้มีการเปิด-ปิดด่าน เนื่องจากเราทราบว่า ผู้มีอิทธิพลอีกฝั่งได้รับผลประโยชน์จากการขนถ่ายสินค้าหนีภาษี ฉะนั้นวันนี้เราไม่จำเป็นต้องทำมาตรการเผาบ้าน เพื่อจับหนูตัวเดียวอีกแล้ว เพราะเรามีเลเซอร์ที่ยิงปุ๊บหนูตายปั๊บ จึงไม่ต้องทำแบบนั้น
\"กมธ.ทหาร\" เสวนาข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา ชี้ไทยไร้เดียงสาการเมือง

 

จากนั้น พันตำรวจเอก สีหนาท ได้บรรยายถึงอาชญากรรมรูปแบบใหม่ว่า คือการขึ้นบัญชีดำ ซึ่งถ้าประเทศใดอนุญาตให้กลุ่มมิจฉาชีพ หรือไม่มีมาตรการป้องกันปราบปรามที่เข้มแข็ง ก็จะถูกโลกล้อมประเทศนั้น ส่งผลให้การทำธุรกรรมลำบาก และจะกลายเป็นระเบิดทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีการกำหนดค่าประเทศที่มีความเสี่ยงสูงไว้ 3 ประเทศ ประกอบด้วย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และกัมพูชา ที่ห้ามทำธุรกรรมการเงิน โดยหากทำจะถูกอายัด หรือ ยึดทรัพย์สินได้

พร้อมกล่าวต่อว่า กัมพูชาก็เคยถูกขึ้นบัญชีจนพ้นจากบัญชีเทาในปี 2023 ซึ่งตนก็เคยเข้าไปช่วยเหลือกัมพูชา ดังนั้นตนเชื่อมั่นว่า ถ้าหน่วยงานของไทยและประเทศต่างๆ ที่ต้องการปราบปรามการกระทำผิด ที่ใช้ประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นศูนย์กลางร่วมมือกัน จะสามารถปราบปรามได้ เพราะถ้าไม่ได้รับความร่วมมือก็จะถูกแบล็คลิสต์ และมีผลกระทบต่อไทยอย่างรุนแรง


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน

มองการปักปันเขตแดนต้องใช้วิธีเจรจา ไม่ใช่วิธีทางทหาร
 

ด้าน นายสุภลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะใช้มาตรการทางทหารตอบโต้ระหว่างกัน เพราะจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน ที่อยู่ตามแนวชายแดนบาดเจ็บล้มตาย ตนก็มีบ้านอยู่เขาพระวิหาร จ.ศรีษะเกษ เห็นว่าเหตุการณ์เมื่อปี 2554 มีการปะทะกัน ทำให้เพื่อนบ้านตนเสียชีวิต 1 คน อย่างไรก็ตาม ผ่านไปแล้ว 10 ปี ตนก็ยังไม่ได้คำตอบว่า เสียชีวิตไปทำไม เราได้ปราสาทพระวิหารมาหรือไม่ สูญเสียทั้งความสัมพันธ์ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน เพื่อแลกกับคำว่าอำนาจอธิปไตยและความรักชาติ

ขณะที่ เหตุการณ์ที่ช่องบก เรื่อง 3 ปราสาทตามแนวขายแดน และการปรับเวลาเปิด-ปิดด่าน  ก็ทำให้เกิดการปลุกกระแสต่อประชาชนทั้งสองประเทศ ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ แล้วถามเจ้าหน้าที่ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ก็ทำให้กัมพูชาจับจุดได้ว่า ไทยมีปัญหาจนนำไปสู่ปัญหาปมคลิปเสียง ซึ่งสร้างความน่าอับอายระดับชาติ เพราะแสดงให้เห็นถึงความไร้เดียงสาทางการเมืองของฝ่ายไทย จากนั้นรัฐบาลจึงได้ให้อำนาจกับกองทัพ ในการซีลชายแดนตลอดแนว ทั้งที่เกิดเหตุที่ จ.อุบลราชธานี และนำไปสู่การปิดด่าน ซึ่งจนถึงขณะนี้ตนก็ยังไม่เข้าใจว่า ตกลงเราทะเลาะกับกัมพูชาเรื่องอะไร เป็นเพราะว่าวาทกรรม หรือคำอธิบายที่ไม่ชัดเจนไม่สอดคล้องสะเปะสะปะใช่หรือไม่

ในขณะที่ทหารบอกว่า ควบคุมชายแดนอย่างเข้มข้นเป็นมาตรการทางยุทธวิธี เพื่อกดดันฝ่ายตรงข้าม ที่มีการปรับกำลังตามแนวชายแดน รวมถึงกดดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ก็ยังไม่มีมาตรการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย ทำให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนได้รับความเดือดร้อน เพราะไทยค้าขายกับกัมพูชามีมูลค่า 3 แสนล้านต่อปี เฉพาะชายแดน 60% คิดเป็นมูลค่า 1.7 แสนล้านบาท จึงมองว่ามาตรการของไทยเป็นการเหวี่ยงแหแบบซุ่มซ่าม แทนที่จะปรับตัวกับภัยคุกคาม อยากให้ตรวจสอบว่า อธิปไตยของไทยมีอยู่จริงหรือไม่
\"กมธ.ทหาร\" เสวนาข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา ชี้ไทยไร้เดียงสาการเมือง
 

แฉเจ้าของบริษัทฟอกเงินรายใหญ่เอี่ยว “ฮุนเซน”
 

เช่นเดียวกับปัญหาการปักปันเขตแดน ก็ใช้วิธีทางทหารไม่ได้ ต้องใช้วิธีการเจรจาผ่านกลไกคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ฉะนั้นการแก้ไขปัญหาเราควรใช้สไนเปอร์ยิง เพราะแม่นยำและชัดเจนกว่า ในการชี้เป้าว่ากัมพูชามี Huione group Cambodia ซึ่งเป็นบริษัทฟอกเงินที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงพนมเปญ และถูกกระทรวงการคลังของสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำว่า มีการฟอกเงินมากถึง 4 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังมีเงินต้องสงสัยกว่า 37 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงกับการขายข้อมูลส่วนบุคคลขนาดใหญ่ แฮกข้อมูลไปที่เกาหลีเหนือ และที่สำคัญเจ้าของบริษัทก็เป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาด้วย ดังนั้นถ้าสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลกัมพูชาในเวทีนานาชาติ ก็จะทำให้กระทบกับเศรษฐกิจของตระกูลสมเด็จฮุนเซน

ส่วนมาตรการของไทยในการไม่ขายสินค้าให้กัมพูชาก็ไม่ได้ผล เพราะไม่กระทบกัมพูชา จึงขอเสนอว่า หากประเทศไทยจะออกมาตรการรับมือกับกัมพูชา ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการบ้าน และหาข้อมูลว่ามีธุรกรรมใดๆ ที่เกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ของกัมพูชาผ่านเข้ามาในประเทศไทยบ้างหรือไม่ เสร็จแล้วก็ค่อยหาแนวทางปฏิบัติต่อ เพราะบริษัท Huione group Cambodia ถือเป็นผู้ร้ายเบอร์หนึ่งของโลกและในเอเชียปัจจุบัน
 

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ตนมีเจตนาบริสุทธิ์ เพื่อยกระดับมาตรฐานกฎหมายไทยและกัมพูชาตามหลักสากล เพื่อประโยชน์สุขของทั้งสองประเทศ ประเทศอื่นๆในภูมิภาค รวมทั้งชาวโลก เพื่อที่ประชาชนทุกคนจะได้ไม่ต้องกังวลว่าทรัพย์สินของเราจะถูกดูดเข้าไป หรือ ถูกใครหลอก
 


\"กมธ.ทหาร\" เสวนาข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา ชี้ไทยไร้เดียงสาการเมือง