KUBET – “กมธ.มั่นคงฯ” จี้ “กอ.รมน.” เอาผิดขบวนการ”ไอโอ”พาดพิง “เพจพรรคประชาชน”
“กมธ.มั่นคงฯ” จี้ “กอ.รมน.” เอาผิดขบวนการ”ไอโอ”พาดพิง “เพจพรรคประชาชน”
“กมธ.มั่นคงฯ” จี้ “กอ.รมน.” เอาผิด ขบวนการ”ไอโอ”พาดพิง “เพจพรรคประชาชน” ถูกจัดในกลุ่มต่อต้านสถาบัน หลังหน่วยงานยอมรับเอกสารจริง แต่แจงเป็นการทำข้อมูลผิดพลาด
1 พฤษภาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส. พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ พร้อมด้วย กรรมาธิการฯ กล่าวภายหลังการประชุมถึงเอกสารของ กอ.รมน.ที่ ได้มีการสรุปข่าวและประเมินสถานการณ์หนึ่งในปัญหาที่เห็นคือ ทางกอ.รมน. ได้มีการสรุปข้อมูลข่าวสาร และกระจายต่อในลักษณะที่เป็นการกล่าวหาและใส่ความเท็จต่อบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหมวดหมู่ของนายทักษิณ ชินวัตร , นายอนุทิน ชาญวีรกูล , ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า , กลุ่มแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง , และกลุ่มต่อต้านสถาบัน โดยมีเพจพรรคประชาชนก็อยู่ในกลุ่มที่ต่อต้านสถาบันด้วย
สำหรับเอกสารดังกล่าวทาง กอ.รมน. ยอมรับกับทางกรรมาธิการว่าเป็นเอกสารจริงโดยไม่มีข้อโต้แย้งว่าเป็นเอกสารปลอม แต่กอ.รมน. ปฏิเสธว่าเนื้อหาการจัดหมวดหมู่ว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาด เนื่องจากนำเนื้อหาข้อมูลทั่วไปมาจากอินเตอร์เน็ต โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าหากมีความผิดพลาดจริงต้องมีการลงโทษลงโทษผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นการกระทำผิดที่ซ้ำซากคล้ายจงใจ ป้ายสีฝ่ายการเมือง
“ที่บอกว่าการผิดพลาดหลายหลายครั้งมันดูจะไม่น่าเป็นความผิดพลาดแล้ว แต่เป็นความจงใจที่จะทำให้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีใฝ่การเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมืองที่เป็นซีกรัฐบาล หรือซีกฝ่ายค้านก็ตาม ซึ่งเอกสารพวกนี้มีการเปิดเผยและส่งต่อให้หน่วยงานต่างๆต้องมีการลงนาม ดังนั้นหากเอาผิดสามารถเอาผิดได้เลย หาก กอ.รมน. บริสุทธ์ใจ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อความแตกแยกทางการเมือง ในเรื่องนี้ต้องมีบุคคลรับผิด” นายรังสิมัน ต์กล่าว
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึง กรณีการใช้ IO ว่า มีโครงสร้างที่คณะทำงานพิเศษ ทบ. ที่ปรากฏชื่อพลเอก ธรรมนูญ วิถี เป็นหัวหน้าคณะทำงานพิเศษ ในส่วนนี้พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกได้ยอมรับกับกรรมาธิการว่า คณะทำงานพิเศษ ทบ. มีอยู่จริง แต่ปฏิเสธว่าไม่มีการดำเนินการใดๆในลักษณะการใส่ร้ายป้ายสี เป็นการทำงานในลักษณะการประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบกเท่านั้น ซึ่งมีการส่งต่อไปยังอินฟลูเอนเซอร์ และนักข่าว ที่ติดตามกองทัพอยู่เป็นประจำเท่านั้น
นายรังสิมันต์ ยังได้ยกตัวอย่างบัญชี IO ที่อาจเชื่อมโยงกับทางกองทัพ เช่น บัญชี “เจ๊จุกคลองสาม” ที่ครั้งหนึ่งเคยแสดงอยู่หน้าจอ LCD ของกองทัพบก ที่พลตรี วินธัย ชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาด กองทัพไม่ได้อยู่เบื้องหลังบัญชีดังกล่าว
นอกจากนั้นยังพบภาพที่เผยแพร่ข้อมูลตำรวจควบคุมฝูงชน ที่มองว่าภาพดังกล่าวมุมที่เกิดเกิดขึ้นต้องมาจากตำรวจเป็นคนถ่ายเท่านั้น ในส่วนนี้ทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ปฏิเสธว่าไม่ทราบ กรรมาธิการจึงมองว่าอย่างน้อยต้องตรวจสอบในเรื่องนี้ ว่าผู้ที่นำข้อมูลของราชการมาเผยแพร่เป็นบุคคล ตร.และ กองทัพ หรือไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวว่าเมื่อฝ่ายความมั่นคง ปฏิเสธการเข้าไปเกี่ยวข้องกับ IO จึงหวังว่า หน่วยงานความมั่นคงจะ ทำหน้าที่ตามกฏหมายอย่าง โดยไม่ปล่อยให้ปฏิบัติการ IO เกิดขึ้นต่อไป
ส่วนการประชุมวันนี้ สืบเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายชยพล สท้อนดี ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน และเป็นการเชิญครั้งที่ 2 ต่อจากการเชิญครั้งแรกที่หลายหน่วยงานไม่ได้มา โดยครั้งนี้หลายหน่วยงานตอบรับร่วมเข้าชี้แจงเป็นอย่างดีทั้ง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือ กอ.รมน. กระทรวงกลาโหม ,กองทัพบกกองทัพเรือกองทัพอากาศ ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
สำหรับรายบุคคลที่ไม่ได้มาชี้แจงในครั้งนี้ เช่น พลเอก ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหาร ,พลโท วณัฐ ลักษณ์สิริ ผู้อำนวยการสำนักการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ,พลตรี นิพัฒน์ เล็กฉลาด ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก