KUBET – รื้อซากตึก สตง.ถึงพื้นราบ ลุยค้นหาชั้นใต้ดิน ส่งกลับจอมมารบู

รื้อซากตึก สตง.ถึงพื้นราบ ลุยค้นหาชั้นใต้ดิน ส่งกลับจอมมารบู

อัปเดตรื้อซากตึก สตง.ถล่ม ถึงพื้นราบ ส่งกลับแบคโฮยักษ์ จอมมารบู ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังค้นหาผู้สูญหายบริเวณชั้นใต้ดินต่อ

1 พฤษภาคม 2568 อัปเดตความคืบหน้าการรื้อซากตึก สตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

 


รื้อซากตึก สตง.ถึงพื้นราบ ลุยค้นหาชั้นใต้ดิน ส่งกลับจอมมารบู

 

ล่าสุด วันนี้ เจ้าหน้าที่ใช้รถบรรทุกขนย้าย รถแบคโฮยักษ์ SK1000 สีชมพู หรือ จอมมารบู คันหมายเลข 22 ออกจากพื้นที่อาคาร สตง. เพื่อกลับที่ตั้งบริษัท หลังจบภารกิจการรื้อถอนบนซากอาคารสูง โดยรถแบคโฮ SK-1000 เริ่มปฏิบัติงานที่ตึก สตง. ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.2568- 1 พ.ค.2568 รวม ระยะเวลา 24 วัน


รื้อซากตึก สตง.ถึงพื้นราบ ลุยค้นหาชั้นใต้ดิน ส่งกลับจอมมารบู

 

ทั้งนี้เนื่องจากในระยะแรกช่วงต้นเดือนเมษายน บริเวณจุดเกิดเหตุซากอาคารถล่ม มีความสูงราว 27 เมตร หรือประมาณตึก 5 ชั้น โดยเจ้าหน้าที่ได้ระดมเครื่องจักรหนัก ทั้งรถเครน และรถแบคโฮ กว่า 20 คัน ร่วมปฏิบัติภารกิจค้นหาร่างผู้สูญหายในซากอาคาร ต่อมาได้มีการนำรถแบคโฮ ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ SK-1000 หรือ จอมมารบู มาใช้ภารกิจ ขุด เจาะ คีบ ตัดเส้นเหล็กระโยงระยาง ในโครงสร้างอาคารถล่ม และแผ่นผนังปูนที่ถล่มลงมาทับซ้อนกันเป็นแพนเค้ก ที่เป็นอุปสรรค กับเจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องใช้รถแบคโฮยักษ์ หรือ SK1000ได้รับการสนับสนุนจากเสี่ยโจ้ บ.ปิยะมิตรกรุ๊ป มาช่วยภารกิจเนื่องจากมีทั้งความสูง และรับน้ำหนักได้มากที่สุด กระทั่งลดความสูงของอาคารได้เป็นระยะ ๆ


รื้อซากตึก สตง.ถึงพื้นราบ ลุยค้นหาชั้นใต้ดิน ส่งกลับจอมมารบู

 

ต่อมาวานนี้ (30เม.ย.68) เจ้าหน้าที่สามารถเคลียร์เศษซากโครงสร้างอาคารจนมาถึงบริเวณชั้น 1 หรือพื้นราบได้สำเร็จ ส่วนที่เหลือเป็นบริเวณชั้นใต้ดิน ซึ่งเครื่องจักรหนัก หรือรถแบคโฮทั่วไปสามารถปฏิบัติงานได้ โดยเฉพาะรถแบคโฮ SK1000 มีสมรรถภาพเฉพาะกับการใช้งานในที่สูงเท่านั้น ทำให้ต้องส่งรถแบคโฮ SK1000 กลับบริษัทที่ตั้งด้วย แต่รถแบคโฮเล็ก ยังอยู่ร่วมภารกิจตามเดิม

 

ทั้งนี้ เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหาย ก้าวเข้าสู่วันที่ 35 ตลอดทั้งคืนตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2568 ถึงวันนี้(1พ.ค.68) เจ้าหน้าที่กู้ภัยทีม USAR จากหลายหน่วยงาน ทั้งทหาร , กรุงเทพมหานคร , สน.บางซื่อ , เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน , แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ , สำนักงานเขตจตุจักร และอีกหลายหน่วยงาน ระดมกำลังค้นหาโดยใช้เครื่องจักรหนัก และเดินเท้า รวมถึงทีมกล้องโดรนจากมุมสูง สลับหมุนเวียนกันทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงใช้รถบรรทุกทยอยขนเศษปูน และเหล็กเส้นออกจากพื้นที่ เพื่อค้นหาร่างผู้ติดค้างสูญหาย

 


รื้อซากตึก สตง.ถึงพื้นราบ ลุยค้นหาชั้นใต้ดิน ส่งกลับจอมมารบู

 

โดยผลการค้นหาของทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR ล่าสุด พบร่างไม่ทราบเพศ รวม 6 ร่าง บริเวณโซน D ดังนี้

  • เวลา 22.53 น. วันที่ 30 เมษายน 2568 พบร่างไม่ทราบเพศ 1 ร่าง
  • เวลา 02.25 น.วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 พบร่างไม่ทราบเพศ 1 ร่าง
  • เวลา 09.40 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 พบร่างไม่ทราบเพศ 1 ร่าง
  • เวลา 10.10 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2568  พบร่างไม่ทราบเพศ 1 ร่าง
  • เวลา 10.44 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 พบร่างไม่ทราบเพศ 1 ร่าง
  • เวลา 12.15 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 พบร่างไม่ทราบเพศ 1 ร่าง

 

โดยร่างทั้งหมดอยู่บริเวณโซน D นอกจากนี้ยังพบกระดูกและชิ้นเนื้อจำนวนมาก บริเวณโซน C-D

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำร่างทั้งหมดและชิ้นส่วนมนุษย์ ส่งตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อชันสูตรยืนยันตัวบุคคลต่อไป