5 มิถุนายน 2568 จากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดน ไทย – กัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี เนื่องจากทหารกัมพูชา รุกล้ำเข้ามาขุดคูเลต จนกลายเป็นประเด็นพิพาทพื้นที่เรียกร้องสิทธิ

ล่าสุด ที่ค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก และคณะ เข้าร่วมหารือกับ พล.อ.เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พลเอก เอต สารัช (Eth Sarath) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเสนาธิการร่วม พลเอก เมา โซพาน (Mao Sophan) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะ

การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องระหว่าง 2 ฝ่าย โดยทั้ง 2 ประเทศ เห็นพ้องที่จะดำเนินการตามกลไกความร่วมมือที่มีอยู่ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นรูปธรรม และการปรับกำลังในพื้นที่ให้เหมือนในปี 2024

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เน้นถึงความสำคัญของการใช้กลไกทางทวิภาคี เป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนความร่วมมือและการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กของ นายภูมิธรรม ได้แชร์ภาพและข้อความจากเพจเฟซบุ๊ก “กองทัพภาคที่ 2” พร้อมระบุสั้นๆ ว่า “ขอความร่วมมือครับ”

โดยภาพและข้อความดังกล่าว มีเนื้อหาว่า “ขอความร่วมมือ งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวกับการปฏิบัติทางทหาร ที่อาจสร้างความขัดแย้ง สับสนภายในประเทศ ด้วยปัจจุบันได้เกิดภาพข่าวของความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ที่สร้างความสับสน และนับวันจะมีมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ข้อเท็จจริงทั้ง 2 ฝ่ายยังอยู่ระหว่างการร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกินความจำเป็น หรือก่อนเวลาอันสมควร และอาจเข้าข่ายเป็นการนำความลับทางราชการไปเปิดเผยโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ส่วนราชการ รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ซึ่งมิใช่ผู้รับผิดชอบในการเผยแพร่ข้อมูล ให้งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติทางทหารต่างๆ ทั้งภาพ เสียง และข้อความ ที่อาจจะสร้างความขัดแย้ง สับสนภายในประเทศให้เพิ่มขึ้น

ขอขอบคุณกำลังใจ และความร่วมมือในการสร้างความเข้าใจ เพื่อรับมือกับการเผยแพร่ข่าวสารที่ไม่สร้างสรรค์ต่อประเทศไทยของเรา ทั้งนี้ ขอให้ติดตามข่าวสารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากกองทัพภาคที่ 2 แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ หรือหน่วยงานด้านความมั่นคงเป็นหลัก