13 มิถุนายน 2568  ที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นภารกิจตรวจดูโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ว่า กระทรวงมหาดไทย จะสัญจรไปยังจังหวัด และกลุ่มจังหวัดที่มีความเสี่ยงจะเกิดสถานการณ์น้ำท่วม เราคาดการณ์ไว้ว่าปีนี้น้ำฝนจะไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน ซึ่งเราถอดบทเรียนความเสียหายจากปีที่ผ่านมาว่าเกิดขึ้นจากอะไร เหตุผลส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากปริมาณน้ำ แต่เกิดจากการบล็อคของเส้นทางน้ำ

ฉะนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่อยู่ในเขตน้ำท่วม จะบริหารจัดการเคลียร์เส้นทางน้ำให้มากที่สุด ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง แต่รวมถึงท่อระบายน้ำ ซึ่งเราได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างดี บางคนมีเรือกสวนไร่นา ในบางช่วงที่เขาไม่ได้ทำการเกษตร ก็ยอมทำเป็นที่พักน้ำ รัฐบาลจึงกำลังหาทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่เสียสละในส่วนนี้ 

เมื่อถามว่า ขนขุนพลอีสาน สส. ของพรรค ลงพื้นที่ด้วยแบบนี้ เป็นการวอร์มรอเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า ไม่ใช่ ก่อนจะหัวเราะ แล้วระบุต่อว่า เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าไปที่ไหน สส. ที่อยู่ในพื้นที่จะมารับฟัง มาชี้แจงปัญหาของชาวบ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็น สส.ของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น ตอนที่ไปชายแดนที่อุบลราชธานี ก็เจอ สส. พรรคเพื่อไทยกับพรรคไทรวมพลัง ที่เป็นเจ้าของพื้นที่มาชี้แจงปัญหา เราไม่แบ่งพรรคแบ่งพวกเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เพราะถือว่าพวกเราเป็น สส. ของประชาชนทุกคน

เมื่อถามย้ำว่า ดูเหมือนเป็นการลงพื้นที่หาเสียง หลังประกาศความพร้อมเป็นฝ่ายค้าน หากถูกยึดเก้าอี้มหาดไทย นายอนุทิน กล่าวว่า เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐมนตรีอย่างเดียว ตนมีฐานะเป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 ของพรรคภูมิใจไทย พวกตนมาจากคะแนนทุกคะแนนทั่วประเทศ เป็น สส. มีสิทธิ์ลงไปแก้ไขสถานการณ์ดูแลประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะพวกตนมาได้เพราะพวกเขา

เมื่อถามย้ำว่า ยังอยากทำงานอยู่ในกระทรวงมหาดไทยใช่หรือไม่ นายอนุทิน ได้หันหน้าไปด้านหลัง ก่อนจะถามผู้สื่อข่าว วิวสวยหรือไม่   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของนายอนุทิน ได้แนะนำ สส.อีสาน จากพรรคภูมิใจไทย ที่มาด้วย นานกว่าครึ่งชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวงมหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย และคณะผู้บริหารกระทรวง รวมถึงนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย รวมถึง สส.อุบลราชธานี ทั้ง 3 เขต ของพรรค คือ นายสุทธิชัย จรูญเนตร น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย น.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวช ร่วมลงพื้นที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ติดตามความพร้อมของหน่วยงานราชการ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน หากเกิดภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูล 

โดย นายอนุทิน กล่าวทักทายชาวพิบูลมังสาหาร ว่า วันนี้ไม่ได้ให้ท่านมาต้อนรับอย่างเดียว​ เราเอาของดีๆ​ เอาสิ่งดีๆ เอาความห่วงใยมามอบให้กับชาวพิบูลมังสาหาร​ และชาวอุบลราชธานี ตั้งแต่ช่วงเช้าได้เดินสายมาเรื่อยๆ​ และวันนี้มาเน้นเรื่องของการเตรียมความพร้อมทางราชการ ที่จะช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของประชาชน หากมีเหตุอุทกภัยหรือภัยพิบัติต่างๆ ตลอดจนมาเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ และพร้อมที่จะเคียงข้างกับชาวอุบลราชธานี​ ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร บุรีรัมย์ ที่มีดินแดนติดกับประเทศกัมพูชา​ เนื่องจากช่วงนี้เรามีปัญหานิดหน่อย แต่เราพร้อมที่จะมายืนหยัดอยู่เคียงข้าง และให้ความมั่นใจว่าจะดูแลความปลอดภัย ดูแลคุณภาพชีวิต​ ขวัญและกำลังใจของทุกคนอย่างสุดความสามารถ 

จากนั้น นายอนุทิน​ ได้แนะนำทีมงานที่มาด้วย​ รู้ว่ามาอุบลราชธานีแล้วจะต้องมีความสุขแน่นอน​ ที่จะได้พบกับประชาชน​ เจอกับรอยยิ้ม ส่วนที่ว่าจะมาให้ขวัญและกำลังใจ ไปๆมาๆได้ขวัญและกำลังใจจากประชาชนแทน​ และกลับบ้านไปมีความสุข​ มีเรี่ยวแรงที่จะทำงานให้กับประชาชนของเรา

นายอนุทิน​ แนะนำ​ นางสาวซาบีดา​ ไทย​เศรษฐ์​ โดยห้ามเรียกว่าท่านรัฐมนตรี​ ให้เรียกว่า​ “ดีดา มานี่“ หรือ “ไอ้หนู มานี่” เราไม่มีตำแหน่งแห่งหน​ ท่านต้องดึงขาของพวกตนไว้ด้วย เรียกรัฐมนตรีบ่อยๆ​ไม่ได้ คนเราก็มีลอยเหมือนกันแหละ แต่ว่าพวกตนเมื่อ 2 ปีกว่าๆ มายกมือไวหว้แทบทุกบ้าน​ มาขอเสียง​ ขอกำลังใจให้กับสส.แนน ตอนนั้นมา ชาวบ้านบอกให้คลานเข้าบ้าน​ ตนยังคลานเลย​ เพื่อที่จะให้เลือกสส.แนน ประชาชนก็ให้กำลังใจเลือกสส.แนน มาเป็น สส.คุณภาพของพรรค ​ได้ทำงาน 

พร้อมชื่นชม นายอิสระ​ สมชัย พ่อของ สส.แนน ที่เลี้ยงลูกมาดี พร้อมบอกว่าเชื่อหรือไม่​ นั่งอยู่ในสภา​ ต้องกวาดสายตาหา สส.แนน  โทรหา สส.แนน ก่อน​ เพราะมั่นใจความปลอดภัยในสภา เพราะว่าแนนเป็น สส. ประเภทเปิดปุ๊บติดปั๊บ สั่งอะไรปุ๊บปั๊บ​ สั่งให้ไปเขกหัว​ มันยิงเลยทันที แต่เวลาตนถามอยากได้รางวัลพิเศษอะไร​ เขาขอเขื่อน​ ขอเบี้ย​ ขอไฟ​ ขอน้ำ​ ไม่เคยขอนาฬิกา​ กระเป๋า หรือเงินเลย ในหัวขอว่าจะคิดอะไรให้กับประชาชน​ ที่เลือกเขามาเป็น สส. แต่จะตบมือให้แนนอย่างเดียวไม่พอ​ แต่ต้องปรบมือให้กับผู้ให้กำเนิดเขาด้วยนั่นคือ นายอิสระ สมชัย บุคคลที่เป็นปูชนียบุคคล ที่เราเรียกว่าดูนางให้ดูแม่​ แต่แนนไม่รู้ดูนางหรือดูนาย​ ขอให้ดูพ่อแม่เลยแล้วกัน​ ได้มาหมดความอ่อนน้อมถ่อมตน​ ความสุภาพ ความอ่อนช้อย​ ความเข้มแข็ง มาจากเลือดของพ่อของแม่

ก่อนที่นายอนุทิน​ จะกลับมาที่ นางสาวซาบีดา ​ว่ารู้หรือไม่ว่าคนนี่ลูกใคร​ ลูกนายชาดา​ ไทยเศรษฐ์​ สร้างกระแสให้กับพรรคภูมิใจไทยมโหฬาร  

นายอนุทิน​ ยังกล่าวแนะนำ นายไชยชนก​ ชิดชอบ​ เลขาธิการ​พรรค​ภูมิใจ​ไทย​ เขาเป็นหลานแต่เหมือนลูกในไส้​ แต่มันทำตัวเป็นพ่อตนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรียกเสียงปรบมือให้กับประชาชนที่มารอต้อนรับ​ ทำให้นายอนุทิน​ ถึงกับกล่าวว่า​ กลับบ้านดีกว่า ขึ้นมาพูด 10 นาทีไม่มีเสียงเชียร์ บางคนหลับไปแล้ว​ ให้กำลังใจหน่อยได้หรือไม่ ซึ่งเรียกเสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากประชาชน ก่อนกล่าวต่อว่า​ เป็นสส.คุณภาพของบุรีรัมย์ สมัยก่อนคนพวกนี้ต้องปรับตัวเข้าหาพวกตน แต่เดี๋ยวนี้ตนต้องปรับตัวเข้าหาพวกเขา ไม่เช่นนั้นอยู่ไม่ได้ เวลาพูดอะไร ก็จะถูกเบรค​ และแย้งด้วยข้อมูล​ ข้อเท็จจริง​ ว่าเป็นอย่างไร จะเอาความเก๋าไปคุยกับเขาไม่ได้​ นี่คือประโยชน์ของประชาชนที่มีพรรคการเมือง มี สส.ที่เป็นคนรุ่นใหม่ และรับฟังกันตลอดเวลา ทำให้เรามีทั้งคนที่มีประสบการณ์และเก๋าเกม มีความรู้ ความสามารถ​ มีอุดมการณ์ ไม่กลัวใคร อยู่ในพรรคภูมิใจไทย ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจเรื่อยมา 

นายอนุทิน​ กล่าวว่า เราได้รับการประสานงานเครือข่ายของอุบลราชธานี รับฟังความต้องการของประชาชนมาเสนอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา ในส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมือง ลงมาแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท เพื่อทำให้เกิดความสะดวกและการป้องกันภัยต่างๆให้กับประชาชน วันนี้ตนมาดูความคืบหน้าเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ที่จะทำให้พื้นที่ชุมชนเขตเมือง ปลอดภัยจากมวลน้ำที่จะไหลเอ่อ​ กระทรวงมหาดไทยจัดให้ได้หมด แต่สิ่งที่ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน​ช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงนี้ต้องอย่าให้มีสิ่งปฏิกูลหรืออะไรก็ตามมาขวางทางน้ำ เพราะอย่างน้อยจะทำให้ความเสียหายบรรเทาลงไป​ ก่อนกล่าวติดตลกว่า ร้องเพลงเยอะๆ เอาความขมขื่น​ไปทิ้งแม่โขง​ 

นายอนุทิน​ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงที่มีความตึงเครียดอยู่ที่ชายแดน พวกเราอยู่ตรงนี้อย่าไปเครียด ให้มันเปลืองพื้นที่สมอง พี่น้องทหาร​ ตำรวจ​ อส.​ ผู้ว่าฯ ไม่มีทางที่จะให้มีอันตรายจากความขัดแย้งของ 2 ประเทศ​ มา​รบกวนชาวพิบูลมังสาหารได้เป็นอันขาด ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือห้ามเครียด อย่ากังวล​ แต่เราต้องส่งกำลังใจไปแนวหน้าให้กับประชาชนที่อยู่แถวอำเภอน้ำยืน และอำเภอน้ำขุ่น และทหารหาญ ที่อยู่แนวหน้า ใครมีกำลังความสามารถ ส่งอาหารไปบ้าง ถ้าไม่มีกำลังไม่ต้องส่ง ส่งใจไปพอแล้ว แต่สิ่งที่ตนให้ความมั่นใจกับชาวพิบูลฯ ได้ คือไม่มีทางที่เราจะยอมให้ฝ่ายตรงข้ามเรา รุกล้ำเข้ามาในประเทศเราได้ แม้แต่เซ็นเดียว

นายอนุทิน​ ยังกล่าวอีกว่า เรามีทีมเจ้าหน้าที่ทหาร​ ตำรวจ​ มีฝ่ายปกครอง​ คอยยันเอาไว้ ไม่มีการข่าว​ ไม่มีสิ่งบอกเหตุใดๆ ที่จะต้องกังวล​ ว่าจะมีการรุกล้ำอธิปไตย​ คำว่าอธิปไตยของข้าราชการไทย และทหาร เป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์มาก​ เป็นคำที่ยกย่องเทิดทูน ไม่จะไม่มีการล่วงล้ำเข้ามาอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า​ สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ขอให้ใช้ชีวิตตามปกติ​ ต้องปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่าแอบเข้าไปดูคูเลต 

ช่วงนี้ต้องเคารพและฟังคำเตือนผู้ว่าฯ ทหารเป็นรั้ว มหาดไทยเป็นบ้าน นี่คือข้อสำคัญของนายกรัฐมนตรี มหาดไทยจะดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ เมื่อตนมาอยู่ตรงนี้บรรยากาศเหมือนกับหาเสียงเลือกตั้ง เพราะเราได้เจอกับประชาชน ถ้ามีปัญหา เรามี อส. อพปร ชรบ. คอยดูแลอยู่ มีที่พักพิง ตนกับปลัดมากระทรวงมหาดไทยจะไปนอน ถ้าพวกตนนอนได้ ประชาชนก็นอนได้ ถ้านอนไม่ได้ต้องมีการยกระดับ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าจะต้องอยู่บ้านให้ได้มากที่สุด ​ 

นายอนุทิน​ ยัง ฝาก สส.อุบลราช​ธานี ทั้ง 3 คนไว้​ และขอเพิ่มด้วยถ้าเป็นไปได้ เพราะคนเหล่านี้อยู่ในวัยทำงาน ทำงานให้กับพวกท่านได้ สส.ภูมิใจไทย ได้รับการปลูกฝังว่าเป็น สส.ประเทศไทย ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน คนเหล่านี้คือผู้แทนราษฎร ซึ่งตนคือหัวหน้าคนใช้ ถ้ารับใช้ประชาชนถือว่าได้รับเกียรติในการรับตำแหน่งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจที่พูดนั้นทำจริง 

ทั้งนี้ ระหว่างที่ นายอนุทิน เดินทักทายประชาชนที่ห้อมล้อม มีการขอถ่ายรูปและขอสวมกอด สื่อจึงแซวว่า บรรยากาศเหมือนเลือกตั้ง นายอนุทิน ทั้งยิ้มและหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า เหมือนเลือกตั้ง ก่อนหันไปถามชาวบ้านที่มาสวมกอดว่า ได้เลือก น.ส.บุญธิดา  แนน หรือเปล่า ก่อนจะนำมือไปลูบที่ศีรษะของ สส.แนน  ชาวบ้านจึงตอบกลับมาว่า เลือกแนน เพราะแนนเป็นลูกหลาน รักจริง ทำจริง